สาระน่ารู้กับการ ทำกระเป๋าผ้า รูปแบบ ถุงผ้าที่ระลึก

ใครที่กำลังมองหาอาชีพเสริม หรือต้องการเปลี่ยนธุรกิจใหม่ ไม่ต้องลงทุนเยอะ ก็สามารถสร้างยอดขาย และทำกำไรที่ดีได้ ธุรกิจกระเป๋าผ้า ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพ ที่ค่อนข้างได้รับความนิยม และมีตลาดที่ค่อนข้างกว้าง ขึ้นกับว่า เราจะเจาะกลุ่มลูกค้า กลุ่มไหน ? ในส่วนของการสร้างแบรนด์ที่มั่นคง 

สร้างยอดขายได้เรื่อย ๆ สามารถเอาใจกลุ่มลูกค้าได้ มักจะเป็น ดีไซน์ กระเป๋ามีความโดดเด่น ตรงความต้องการ และรสนิยมของลูกค้ากลุ่มนั้น ๆ นอกจากนี้ ยังต้องอาศัยวิธีการเสริมอื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อช่วยให้แบรนด์มีความแข็งแรง สร้างยอดขายหลักล้านได้

 

กรณีศึกษา 2 แบรนด์ไทยที่มีดีไซน์โดดเด่น แนวทางการตลาดที่ชัดเจน และมีแนวคิดที่ดี ในการสร้างแบรนด์กระเป๋าผ้า ดังนี้ 

แบรนด์แจปแฟค ( Japfac ) : 

อีกหนึ่งแบรนด์ไทย ที่เป็นตัวอย่างที่ดี ในการสร้างนิยามให้กับตัวเอง ได้อย่างน่าสนใจ คือ “ กระเป๋าไม่ใช่เรื่องของแฟชั่น แต่เป็นเครื่องมือในชีวิตประจำวัน ” ภายใต้การดีไซน์และการออกแบบ ของคุณนัท - คนัสนันท์ และคุณเจน - เจนจิรา โดยมีความตั้งใจที่จะทำกระเป๋าผ้า ให้สามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย มีการใช้งานที่หลากหลาย และใช้วัสดุที่คงทน มีอายุการใช้งานที่นาน จึงเป็นเหตุผลหลัก ๆ ที่แบรนด์แจปแฟค ได้รับความนิยม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

โดย Collection ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ กระเป๋าผ้าทรงสีเหลี่ยม ( Tote Bag ) มีการใส่ลูกเล่นให้กระเป๋าผ้าน่าใช้งานมากขึ้น พร้อมกับการใช้วัสดุผ้ายีนส์ และผ้าริมในการตัดเย็บแบบ Handmade ที่เก็บรายละเอียดได้เป็นอย่างดี 

นอกจากนี้ ทางแบรนด์ แจปเฟคยังมีการโปรโมทสินค้า และจัดจำหน่ายหลัก บนช่องทางออนไลน์ เพื่อให้คนสามารถติดตามได้ง่าย ด้วยการนำเสนอที่แสดงออก ถึงตัวตนของแบรนด์ คือ การถ่ายภาพกระเป๋าบนร่างกายของคน ในท่าทางต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้ารู้ว่า กระเป๋าผ้าเมื่ออยู่กับร่างกายคนจะเป็นอย่างไร ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธี ในการโปรโมืสินค้าให้มีความน่าสนใจด้วย

 

แบรนด์นารายา ( Naraya ) : 

เป็นการเปลี่ยนผัวตัวโดยสิ้นเชิง จากบริษัทเทรดดิ้ง สู่การสร้างแบรนด์กระเป๋าผ้านารายา Naraya คุณวาสนา แสงรุ่งทองและสามี ( ผู้ก่อตั้งแบรนด์กระเป๋าผ้านารายา ) เล็งเห็นถึงความสำคัญ ในการมีแบรนด์กระเป๋าผ้าเป็นของตัวเอง ในส่วนของไอเดียการออกแบบกระเป๋าผ้า ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก สินค้ากระเป๋า OTOP ที่มีลายช้าง จึงนำไอเดียนี้มาผสมผสาน จนได้เป็นดีไซน์กระเป๋าผ้านารายา ( มีโบว์ตรงกลาง , ตาราง ) ที่เราเห็นทุกวันนี้ 

นอกจากดีไซน์ที่โดเด่นแล้ว ยังมีกลยุทธ์การตั้งราคาที่น่าสนใจ ช่วยดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ทั้งจีน , ฮ่องกง , เกาหลี และสิงคโปร์ กระเป๋าจากวัสดุผ้า เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนเหล่านี้ นิบยมซื้อกลับไปเป็นของฝาก ถึงแม้จะมีราคาเริ่มต้นเพียงหลักสิบ แต่ความตั้งใจของคุณวาสนา “ ต้องการให้คนเข้าร้านมา แล้วได้สินค้ากลับมือติดไปให้ได้ ” นอกจากกลยุทธ์การตั้งราคาแล้ว ที่ตั้งของร้านค้า ยังช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จักได้ไวมากขึ้น โดยสาขาแรก ได้แก่ นารายณ์ภัณฑ์ , พัฒพงศ์ , Centralworld เป็นต้น ในปัจจุบันมีทั้งหมด 13 สาขา และมีแผนที่จะขยายเพิ่มเติมในอีกไหมกี่ปีข้างหน้า เพื่อเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าในเขตต่างจังหวัด และต้องการที่เจาะกลุ่มลูกค้าไทยด้วย นอกจากนี้แบรนด์นารายา ยังมีการแตกไลน์สินค้าออกไปมากมาย เช่น เครื่องเขียน , เครื่องประดับ , และเสื้อผ้า เพื่อเอาใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้า อย่างทั่วถึง

 

 

จากกรณีศึกษา ทั้ง 3 แบรนด์ไทย มีวิธีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ? ในการสร้างแบรนด์กระเป๋าผ้า ให้มีความแข็งแรง และโดดเด่นท่ามกลางการแข่งขันที่สูง สามารถสรุปเป็นใจความสำคัญได้ ดังนี้ 

7 วิธี ทำกระเป๋าผ้าขาย ลงทุนหลักหมื่น ได้ยอดขายหลักล้าน 

1. ช่องทางการขายกระเป๋าผ้า : การมีช่องทางการขาย ที่หลากหลาย จะช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ทั้งช่องทางออนไลน์ บนสื่อโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook , Instagram , Twitter , Online Marketplace , เว็บไซต์ หรือ การขายกระเป๋าผ้าตามงานแสดงสินค้า ( Expo ) หรือตลาดกลางแจ้ง ตลาดนัด หรือการออกบูธร่วมกับหน่วยงาน - องค์กรที่เกี่ยวข้อง หรือเราจะเช่าหน้าร้าน เพื่อขายกระเป๋าผ้าโดยเฉพาะ ก็ได้เช่นเดียวกัน

2. มีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน : ก่อนเราจะขายกระเป๋าผ้า เราต้องรู้ก่อนว่า เราจะขายให้ใคร ? หรือใครน่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าของแบรนด์เรา ? เพื่อวิเคราะห์การตลาดก่อนการผลิตสินค้า ว่าลูกค้ามีความชอบ หรือนิยมแบบไหน หรือตอบโจทย์การใช้งานกระเป๋า ในด้านไหนบ้าง ? เพื่อให้ตรงกับความต้องการ และความชอบของลูกค้า การมีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน จะช่วยสนับสนุนแบรนด์กระเป๋าผ้า ของเราอย่างต่อเนื่องได้ เปรียบเสมือนการมีลูกค้า Loyalty คอยติดตามอยู่เสมอ 

3. สินค้า Collection ช่วยเพิ่ทยอดขายได้ : การออกแบบกระเป๋าผ้าเป็นชุด Collection , หลากหลายขนาด , หรือหลากลายลวดลาย ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้า มีความอยากซื้อเพิ่มเก็บสะสมมากขึ้น อาจจะมีการกระตุ้นด้วยโปรโมชั่นพิเศษ เช่น Limited Edition Set กระเป๋าผ้าตามฤดูกาล และตามเหตุการณ์สำคัญ เป็นต้น แนะนำให้ออกแบบ Collection กระเป๋าล่วงหน้า ก่อนการวางจัดจำหน่ายจริง เช่น ต้องการวางขายสินค้าใหม่ทุก ๆ 3 เดือน ควรจะมีการออกแบบกระเป๋าผ้า ล่วงหน้า 6 - 8 Collections เพียงพอต่อการวางจัดจำหน่าย ระยะเวลา 1 ปี เพื่อป้องกันสินค้าขาดช่วงระหว่างการขาย ออกแบบกระเป๋าผ้าไปพร้อม ๆ กับกาโปรโมทสินค้าไปด้วย เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าติดตามแบรนด์  นอกจากนี้ การออกแบบกระเป๋าผ้าแบบ Collection ยังช่วยให้เราวัดตลาดได้ด้วย ว่ากลุ่มลูกค้ามีความชื่นชอบ ดีไซน์กระเป๋าใน Collection ไหนมากที่สุด เพื่อให้เรานำไปปรับแผนการตลาด ในอนาคตได้ด้วย

4. Story telling ตัวช่วยดึงดูดลูกค้าที่ดี : การทำแบรนด์กระเป๋าผ้า ไม่เพียงแต่มีสินค้าวางขาย และการจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายเท่านั้น การกระตุ้นการรับรู้แบรนด์ และการสร้างคุณค่าให้กับสินค้า  ด้วยการสร้างเรื่องราว ( Story Telling ) เป็นทางเลือกที่ทำให้ลูกค้า หันมาสนใจในแบรนด์ของเรา อย่างมั่นคงและต่อเนื่องที่สุด เราสามารถนำเสนอการเล่าเรื่อง ในส่วนของที่มาของแบรนด์ , แรงบันดาลในการทำคอลเลคชั่น กระเป๋าผ้าในซีซั่นนี้ , การรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก เพื่อธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม , ความร่วมสมัย ของดีไซน์กระเป๋าผ้า เป็นต้น
   
   ตัวอย่างที่กล่าวมาข้างต้น เป็นการสร้างความรู้สึกร่วมกัน ระหว่างแบรนด์และลูกค้า หรือระหว่างองค์กรและประชาชน เพื่อให้มีความใกล้ชิด และเชื่อมโยงถึงกันง่ายขึ้น นอกจากนี้ การนำเสนอเนื้อหาบางอย่าง ยังสามารถเข้าถึงได้ทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัยด้วย เช่น การรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก หันมาใช้ถุงผ้าพับเก็บง่าย เพื่อลดขยะในท้องทะเล ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมปลูกฝังความคิด ให้กับเด็กและคนรุ่นใหม่ได้ดีทีเดียว เป็นต้น ในส่วนของการดีไซน์กระเป๋าผ้า เราสามารถเลือกสั่งทำกระเป๋าผ้า ได้ตามลวดลายที่เราต้องการ ให้สอดคล้องกับแคมเปญ หรือกิจกรรมนั้น ๆ เพื่อให้ผู้ที่พบเห็นเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น 
   
   

5. จำนวนกระเป๋าที่ต้องการผลิต เพื่อจัดจำหน่าย : เราต้องทำการศึกษาตลาดให้ดีก่อนว่า ความต้องการกระเป๋าผ้า หรือปริมาณการใช้งานกระเป๋าผ้า เป็นในทิศทางใด สามารถสอดคล้องกับแบรนด์ได้หรือไหม ? เพราะหากเราผลิตสินค้า น้อยกว่าความต้องการสินค้า ก็ทำให้สินค้าขาดตลาด ไม่ทั่วถึง อาจจะก่อให้เกิดความไม่พึงพอใจได้ หรือสั่งทำกระเป๋าผ้ามาเยอะ แต่ไม่มีคนซื้อ ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าพื้นที่ , ค่าดำเนินการอื่น ๆ เป็นต้น  เพราะฉะนั้น ก่อนการสั่งทำกระเป๋าผ้า เราต้องคำนึงถึงจำนวนกระเป๋าผ้าที่ต้องการผลิต กับงบประมาณในการผลิต

6. การดูแลหลังการขาย : การสร้างความภักดีของลูกค้า ไม่เพียงเฉพาะดีไซน์กระเป๋าผ้า ที่ถูกใจลูกค้าอย่างเดียว การบริการลูกค้าหลังจากการขาย , การจัดโปรโมชั่น , การสอบถามความคิดเห็นของลูกค้า ฯลฯ ก็เป็นสิ่งที่แบรนด์กระเป๋าผ้า ไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยให้เรานำสิ่งที่ผิดพลาด ไปปรับปรุง แก้ไขและพัฒนาแบรนด์แข็งแรงขึ้นได้ นอกจากนี้ การดูแลหลังการขาย เป็นการรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้ ซึ่งมีต้นทุนในการโปรโมทน้อยกว่าลูกค้าใหม่ หลายเท่า

7. การทำบัญชีรายรับ - รายจ่าย : ช่วยให้การวางแผนการเงิน เพื่อการลงทุน ให้มีความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะนอกจากเงินทุน ในส่วนของการสั่งทำกระเป๋าผ้าแล้ว เรายังมีค่าใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ ด้วย เช่น การโปรโมทสินค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ , ค่าเช่าร้าน , ค่าจ้างพนักงาน , ค่าขนส่ง , ค่าโฆษณาออนไลน์ ฯลฯ หากเราวางแผนไม่ดี อาจจะทำให้ธุรกิจล้มลงได้ง่าย ถึงแม้ว่าจะขายดีแค่ไหนก็ตาม 
   
   

สำหรับผู้ที่สนใจสั่งทำกระเป๋าผ้าพิมพ์แบรนด์ หรือสกรีนชื่อบนกระเป๋าผ้า แต่งบน้อยเชิญทางนี้ ทางโรงงานผลิตมีกระเป๋าผ้าแคนวาสสีดำ สะพายข้าง ตัดเย็บด้วยความปราณีตคุณภาพดี ไม่มีขั้นต่ำ กระเป๋าผ้าแคนวาสสีดำ สะพายข้าง มีช่องใส่ของได้เยอะมาก เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ต้องการกระเป๋าผ้าไปทำงานที่จุของได้จำนวนมาก ซึ่งปกติเราจะมีขั้นต่ำ 500 ใบ แต่สำหรับกระเป๋าผ้าทรงนี้เป็นทรงขายดี ขายเพียงใบละ 150 บาทเท่านั้น  ซื้อ 2 ใบ ขึ้นไป ราคาใบละ 95 บาท ฟรีจัดส่ง

✅ สเปค : ผ้าแคนวาส (ด้านนอก) และ ผ้า600D (ด้านใน) 
✅ ความหนา : เนื้อผ้าแคนวาสอย่างหนา 
✅ ดีไซน์ : กระเป๋าผ้าแฟชั่น สะพายข้าง ดีไซน์แม่บ้านญี่ปุ่น
✅ สี : สีดำ
✅ ขนาด : 11.5 x 19 นิ้ว
✅ ขั้นต่ำ 1 ใบ ราคา 150 บาท ส่งฟรี

ขายเพียงใบละ 150 บาท เท่านั้น 

ซื้อ 2 ใบ ราคาใบละ 95 บาท ฟรีจัดส่ง

(ซื้อ 100 ใบ สั่งพิมพ์แบรนด์ได้)

 

ทางเราพร้อมที่จะให้บริการ ออกแบบ และให้คำปรึกษา ในเรื่องการผลิตกระเป๋าผ้า ทุกชนิด
ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย มีสีให้เลือกมากกว่า 15 สี
ผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อเข้ามาได้ ผ่านทาง
Facebook : Thai design guru

Line : @designguru

Tel : 088 - 653 - 2999