ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีวันหยุดตามเทศกาลตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นวันปีใหม่, วันสำคัญทางศาสนา, วันแม่และวันพ่อ รวมถึงวันสากลต่าง ๆ เช่น วาเลนไทน์ , วันฮาโลวีน , วันตรุษจีน เป็นต้น ถือเป็นโอกาสที่ดีไม่ว่าจะธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ก็สามารถจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นที่เหมาะสม เพื่อเรียกลูกค้าให้ซื้อสินค้า
หรือบริการของธุรกิจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นอกจากโปรโมชั่นที่น่าสนใจแล้ว ยังมีตัวช่วย ในการกระตุ้นยอดขาย และส่งเสริมภาพลักษณ์ธุรกิจ ในระยะยาวได้อย่างมั่นคงด้วย นั่นคือ ถุงผ้า ลดโลกร้อน
ก่อนอื่น มาดูกันว่า ในช่วงเทศกาล ตัวเลขในการจับจ่ายใช้สอย ของผู้บริโภค เป็นอย่างไรกันบ้าง?
เมื่อในปี 2018 ถือว่า เป็นปีที่ธุรกิจ E-commerce เติบโตได้ดี เมื่อเทียบกับปีหลายปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีแนวโน้มตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย มีหลายแล่งข้อมูลที่มีการยืนยันว่า ธุรกิจ E-commerce เติบโตมากกว่า ตัวเลขของความเป็นจริง โดยเฉพาะ ในช่วงเทศกาล ที่พบว่ามีการเติบโตสูงกว่าปกติ ผู้บริโภคจับจ่าย และสั่งซื้อสินค้า ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีตัวเลข ของการซื้อสินค้าจำพวกอุปกรณ์อุปกรณ์สื่อสาร อย่างเช่น สมาร์ทโฟน มากขึ้นด้วย พร้อมกับการวิจัยที่พบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ เน้นใช้โทรศัพท์มือถือ ในการเข้าเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่น เพื่อทำการสั่งซื้อออนไลน์ ในช่วงเทศกาล ถือเป็นแนวทางการทำการตลาดที่ดี อย่างมาก สำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำธุรกิจ ควรศึกษาช่องทางออนไลน์ ในการโปรโมทแบรนด์สินค้า , โฆษณาสินค้า , ขายสินค้า และการดูแลลูกค้า เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลขของการสั่งซื้อของออนไลน์ กับซื้อของหน้าร้าน ก็มีปริมาณเท่าๆ กัน เพราะฉะนั้น เจ้าของธุรกิจ ก็ต้องใส่ใจลูกค้า ให้บริการ และกระตุ้นยอดขาย ทั้งฝั่งออนไลน์ ควบคู่ไปออฟไลน์ด้วย เรียกว่า การทำการตลาดแบบ “ Omichannel ” หรือ การตลาดแบบ 5.0 ( ติดตามเพิ่มเติม : เคล็ดลับ : กระเป๋าผ้า กับการสื่อสารการตลาด ในยุค 5.0 )
เมื่อพูดถึงช่วงเทศกาล สิ่งที่มักจะพบเจอบ่อย ๆ คือ การจัดโปรโมชั่นต้อนรับเทศกาล และมีให้ติดตามกันอยู่เรื่อย ๆ ทั้งลด แลก แจก แถม , มา 4 จ่าย 3 , ถ่ายรูป พร้อมโพสลงโซเชียลมีเดีย ลด 5% เป็นต้น แต่ก็มีหลายคนคิดว่า การทำโปรโมชั่น ในช่วงเทศกาล จะเวิร์คไหม ? ทำแล้วคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ ?
การทำโปรโมชั่น เป็นเทคนิคการตลาด ที่จัดทำในระยะสั้น โดยเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้า เกิดการซื้อเยอะ ซื้อเร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น สร้างฐานลูกค้าใหม่ , กระชับความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าเก่า ให้ติดตามข่าวสารกับแรนด์มากขึ้นด้วย หากเราวางแผนทำโปณโมชั่นดี จะช่วยสร้างความแตกต่างออกจากคู่แข่งด้วย
แต่มีข้อที่ควรคำนึงถึง คือ เทศกาล สถานที่ราชการหรือธนาคาร จะไม่เปิดให้บริการ ก็จะมีเพียงไม่กี่ธุรกิจ ที่ไม่สามารถทำโปรโมชั่น ในช่วงเทศกาลได้ แต่ก็ยังมีเทศกาลอื่น ๆ ที่ไม่ตรงกับวันหยุดราชการ เช่น เทศกาลเปิดเทอม , วันวาเลนไทน์ , วันสากลต่าง ๆ เป็นต้น อีกทั้ง เรายังมีการชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์ มาตอบโจทย์การจับจ่ายใช้สอย ในช่วงวันหยุดด้วย อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ ในการจัดโปรโมชั่น คือ เราไม่ควรจัดโปรโมชั่นตลอดทั้งปี หรือจัดอย่างฟุ่มเฟือย เพราะอาจจะทำให้เราขาดทุน และภาพลักษณ์ธุจกิจดูไม่น่าเชื่อถือด้วย
การทำโปรโมชั่น ไม่ได้เหมาะสมกับทุกแบรนด์ ทุกธุรกิจ เฉพาะสินค้าที่มีความจำเป็น ต้องซื้อซ้ำ สินค้าอุปโภคบริโภค , บัตรโดยสาร ฯลฯ ตัวอย่างโปรโมชั่น เช่น Roll Back ถูกลงกว่าเดิม , สมัครบัตร Rabbit ได้เที่ยวเดินทางเพิ่ม , ซื้อผงซักฟอกแบบ 3 แถม 1 เป็นต้น แต่สำหรับบางธุรกิจ การทำโปรโมชั่นอาจจะไม่เหมาะสม ในการ กระตุ้นยอดขาย เพราะอาจจะทำให้สินค้า ดูมีคุณภาพที่แย่ลง เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกซ์ , อาหารเสริม , เครื่องสำอาง , รองเท้า เป็นต้น นอกจากการทำโปรโมชั่นแล้ว ยังสามารถใช้เครื่องมืออื่น ๆ ในการกระตุ้นยอดขายได้อีก เช่น การแจกของแจกพรีเมี่ยม , การแจกคูปอง หรือ Gift Voucher , การแถมสินค้าพรีเมี่ยม เป็นต้น ( ติดตามเพิ่มเติม : รูปแบบของกระเป๋าผ้า ที่นิยมทำเป็น ถุงผ้าพรีเมี่ยม หรือ ถุงผ้าแถมสินค้า ) หรือกระเป๋าผ้า สำหรับงานเทศกาล ( ติดตามเพิ่มเติม : รวมไอเดีย กระเป๋าผ้าสีฟ้า ของแจกพรีเมี่ยม ในวันพิเศษต่าง ๆ )
การทำโปรโมชั่น ในช่วงเทศกาล ช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับธุรกิจได้ แต่หากคิดอีกมุมพบว่า ราคาที่ลดลงไปในการทำโปรโมชั่น คือต้นทุนและค่าใช้จ่าย ของธุรกิจ ซึ่งหลังจากหมดโปรโมชั่น หรือหมดช่วงเทศกาลแล้ว สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นตามมา ก็คือ ลูกค้าจะกลับไปใช้สินค้าเดิม ที่เคยใช้อยู่ ทำให้ยอดขายของธุรกิจ กลับมาเท่าเดิม หรือในบางแบรนด์ พบว่า ยอดขาย หลังจากการทำโปรโมชั่นในช่วงเทศกาล ต่ำลงกว่าปกติ เพราะลูกค้าไม่ซื้อสินค้า หรือบริการซ้ำ และอาจจะเกิดจาก การวางแผนการทำโปรโมชั่น ในแบบผิด ๆ จนก่อให้เกิดการขาดทุนก็ว่าได้
“ การทำโปรโมชั่น จึงต้องคำนึงถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค และแรงจูงใจในการซื้อสินค้า ”
ประกอบกับ การวิจัยทางการตลาดของธุรกิจด้วย เช่น วิเคราะห์ผลประกอบการ , สินค้าที่ขายดีที่สุด , การวางแผน โปรโมทสินค้าใหม่ , ช่วงฤดูกาล ที่อาจจะส่งผล ถึงปริมาณการผลิต ( สินค้าเกษตรกรรม ) อย่างไรก็ตาม การทำโปรโมชั่น จึงเป็นตัวเลือกหนึ่ง ของการทำการตลาดสำหรับธุรกิจ แต่สิ่งที่สามารถ ช่วยกระตุ้นยอดขาย , สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ คือ การรักษาคุณภาพสินค้า และบริการที่ดี รวมถึงการใช้สินค้าพรีเมี่ยม เป็นเครื่องกระตุ้นการจดจำแบรนด์ ให้กับลูกค้า
ของแจกพรีเมี่ยม คืออะไร ?
สินค้า หรือของแจกพรีเมี่ยม ที่เราจะใช้ใน การกระตุ้นแคมเปญสินค้า หรือกิจกรรมโปรโมทแบรนด์ เพื่อสื่อสาร ให้ผู้บริโภคเข้าถึงแบรนด์ ได้ง่ายมากขึ้น การใช้สินค้า หรือของแจกพรีเมี่ยม เป็นตัวช่วยในการโฆษณาสินค้าได้ดีที่สุด ไปดูกันว่า ข้อดีของการใช้ สินค้าพรีเมี่ยม ในทางการตลาดจะมีอะไรบ้าง ?
- สินค้าพรีเมี่ยม มีความสร้างสรรค์ : ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือ ที่ค่อนข้างเปิดกว้าง ในการใช้งานเพื่อโปรโมทแบรนด์ สามารถ สั่งทำสินค้าพรีเมี่ยม ให้เป็นเอกลักษณ์ สำหรับช่วงเทศกาล หรือในโอกาสพิเศษก็ได้ เช่น ขนมไหว้พระจันทร์ สำหรับเทศกาลไหว้พระจันทร์ , เครื่องแต่งกาย และกระเป๋าผ้า KFC ( ติดตามเพิ่มเติม : เจ๋ง! ไอเดีย กระเป๋าผ้าพิมพ์ลาย กับเทคนิคการตลาด ที่น่าสนใจ ) , ฉลองเปิดร้านใหม่ ด้วยการแจกสินค้าพรีเมี่ยม เป็นต้น
- ช่วยสร้างความแตกต่าง ออกจากแบรนด์คู่แข่ง : เพราะด้วยการออกแบบสินค้าพรีเมี่ยม ในช่วงเทศกาล ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัวนี่เอง ทำให้เราแตกต่างจากแบรนด์คู่แข่ง เมื่อไหร่ก็ตาม ที่เราแจกสินค้าพรีเมี่ยม ให้กับลูกค้าแล้ว ก็จะช่วยสร้างการจดจำ และสร้างความประทับในแบรนด์ของเรา ทันที โดยเฉพาะสิ่งของที่มีประโยชน์ เน้นการใช้งานทุก ๆ วัน เช่น ถุงผ้า ลดโลกร้อน , ร่ม , กระบอกน้ำ , เสื้อยืด , กระเป๋าผ้า พิมพ์สกรีน ฯลฯ ( ติดตามเพิ่มเติม : เมื่อกระเป๋าผ้าถูกใช้เป็นเครื่องมือการตลาดของแบรนด์ดัง )
- ต้นทุนการโปรโมทต่ำ : เมื่อเทียบกับสื่อต่าง ๆ ที่ใช้ในการโปรโมท เช่น บิลบอร์ด , โทรทัศน์ , วิทยุ , หนังสือพิมพ์ , นิตยสาร เป็นต้น การใช้สินค้าพรีเมี่ยม หรือของแจก มีประสิทธิภาพมากมาย สามารถใช้ได้ทั้งธุรกิจขนาดเล็ก และขนาดใหญ ที่ต้องการกระตุ้นยอดขาย พร้อมกระตุ้นการรับรู้แบรนด์ ไปพร้อม ๆ กัน
- สินค้าพรีเมี่ยม มีอายุการใช้งานนาน : โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถุงผ้า ลดโลกร้อน ที่มีอายุการใช้งานโดยเฉลี่ยมากกว่า 2 ปี ขึ้นอยู่กับการเลือกเนื้อผ้า , การใช้งาน และการดูแลรักษา ถุงผ้า ลดโลกร้อน เราสามารถเลือกผลิตถุงผ้า ลดโลกร้อน เพื่อใช้งานได้หลากหลายโอกาส เช่น ใช้แทนถุงพลาสติก , ใช้เป็นของชำร่วยในวันแต่งงาน ( ติดตามเพิ่มเติม : ไอเดีย ของชำร่วยงานแต่ง ด้วยกระเป๋าผ้า พิมพ์สกรีน ไม่ซ้ำใคร ) , ใช้กระตุ้นยอดการรับรู้ สำหรับงาน Event เป็นต้น
- สินค้าพรีเมี่ยมเป็นที่สังเกตได้ง่าย และน่าสะสม : ยกตัวอย่าง แบรนด์ Starbuck ที่สามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ และสร้างยอดขายด้วยสินค้าพรีเมี่ยม ตั้งแต่ กาแฟถุง , แก้วกาแฟ , เครื่องเขียน , เครื่องทำกาแฟ และกระเป๋าผ้า พิมพ์สกรีน โลโก้ เป็นต้น สำหรับการออกแบบสินค้าพรีเมี่ยม อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ความยุ่งยาก แต่ควรเลือกออกแบบ และสั่งทำสินค้า ที่สามารถเป็นตัวแทน ในการสื่อสารแบรนด์ได้ นอกจากนี้ ยังมีองค์กรอื่น ๆ เช่น สโมรสรฟุตบอล , บริษัทเอกชน , บริษัทขนส่งสินค้า , สายการบิน เป็นต้น
สำหรับในช่วงเทศกาล เราสามารถสั่งทำถุงผ้า ลดโลกร้อน เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายแบรนด์ ได้หลากหลายวิธี ทั้งการจัดโปรโมชั่นร่วมกับสินค้า แทนที่จะเป็นการลด แลก แจก แถมสินค้า เป็นการแลกและแจกถุงผ้า ลดโลกร้อน เพื่อใช้กระตุ้นยอดขาย อย่างที่เรามักจะเห็นบ่อย ๆ คือ แบรนด์เครื่องสำอาง มักจะสั่งทำกระเป๋าผ้า เครื่องสำอาง เป็นสินค้าพรีเมี่ยม เป็นต้น ( ติดตามเพิ่มเติม : รับทำกระเป๋าผ้า เครื่องสำอาง ที่ให้มากกว่า คำว่า กระเป๋าผ้า )
ทางเราพร้อมที่จะให้บริการ ออกแบบ และให้คำปรึกษา ในเรื่องการผลิตกระเป๋าผ้า ทุกชนิด
ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย มีสีให้เลือกมากกว่า 15 สี
ผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อเข้ามาได้ ผ่านทาง
Facebook : Thai design guru
Line : @designguru
Tel : 088 - 653 - 2999