วางแผนธุรกิจอย่างไรให้ยอดขายปังค์ด้วยถุงผ้าเป็นสื่อตลาด เรียนรู้กันก่อน ก่อนสั่งทำกระเป๋าผ้าว่าเราเป็นธุรกิจแบบไหน ความแตกต่างของการทำกระเป๋าผ้าเป็นสื่อในการตลาดแบบธุรกิจ B2B และ B2C ทำไมบางโรงงานผลิตกระเป๋าผ้าถึงมีขั้นต่ำ แต่บางบริษัทยังสั่งทำกระเป๋าผ้าขายได้จำนวนมาก ทำไมเราขายกระเป๋าผ้าได้ยอดขายนิดเดียว

 

ความแตกต่างของการทำกระเป๋าผ้าในการตลาดแบบธุรกิจ B2B และ B2C

B2B มาจากคำว่า Business-to-Business การทำธุรกรรมหรือธุรกิจระหว่างบริษัทกับบริษัท ไม่ได้ลูกค้ารายย่อย หรือไม่ใช่ลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดา จำนวนการสั่งผลิตจะเน้นจำนวนเยอะ เช่น thaidesignguru ซึ่งเป็นโรงงาน OEM รับพิมพ์แบรนด์กระเป๋าผ้าหรือถุงผ้าให้กับลูกค้า ขณะที่โรงงานทำกระเป๋าผ้าก็ซื้อผ้าจากโรงงานผ้าเพื่อทำกระเป๋าผ้าให้ลูกค้า

ซึ่งธุรกรรมนี้เป็นการซื้อขายระหว่างบริษัทก็เป็น B2B หรือแม้กระทั่งโรงงานทำกระเป๋าผ้าผลิตกระเป๋าผ้าให้ลูกค้าแบรนด์ต่างๆ เพื่อขายสินค้าเข้าห้างสรรพสินค้า แบรนด์กระเป๋าผ้าแฟชั่นหรือสินค้าแฟชั่นออนไลน์สั่งทำกระเป๋าผ้าเพื่อเป็นสินค้าขายส่ง ขายให้ยังตัวแทนจำหน่าย แบบนี้ก็ยังถือว่าเป็น B2B โรงงานผลิตกระเป๋าผ้ากลุ่มนี้ต้องมีความน่าเชื่อถือ ผลิตสินค้าได้จำนวนมาก ในระยะเวลาที่จำกัด


B2C มาจากคำว่า Business-to-Consumer
หมายถึงธุรกิจที่ขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งการสั่งผลิตกระเป๋าผ้าจะอยู่ในรูปแบบสินค้าร่วมโปรโมชั่น ของแถม ของแจกให้กับผู้มาร่วมงานโดยตรง โดยปกติเราจะคุ้นเคยกับบริษัท B2C กันดี เพราะเป็นอะไรที่เข้าถึงผู้บริโภค ยกตัวอย่างธุรกิจ B2C ประเภทสินค้า ก็อย่างเช่น ขายเสื้อผ้าแฟชั่นโดยสั่งทำถุงผ้าเป็นบรรจุภัณฑ์ ร้านอาหาร แบรนด์น้ำดื่มมีถุงผ้าเป็นของแถม แบรนด์สบู่แชมพู เป็นต้น 

ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้า B2C ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ หน่วยงาน ที่ต้องการผลิตกระเป๋าผ้าในรูปแบบสไตล์ของตัวเอง เพื่อไปขายเองตามช่องทางต่างๆ เช่น Facebook instagram ขายผ่านหน้าร้านโดยตรง หรือแจกที่ระลึกในงานสัมมนา

มีจำนวนการสั่งผลิตกระเป๋าผ้าที่ชัดเจน แต่อาจจะไม่มากเท่า B2B เช่น ขั้นต่ำ 300 - 500 ชิ้น และมีกำหนดการใช้งานที่แน่นอน ซึ่งช่วงเวลาการใช้งานขึ้นอยู่กับ วันเวลาที่จัดงาน วันที่ต้องการปล่อยสินค้า ผู้ผลิตกระเป๋าผ้าประเภทนี้ต้องมีความชำนาญ ตั้งแต่การออกแบบ ผลิต จนถึงความสามารถในการจัดส่ง

 

ข้อดีของการรู้จักประเภทธุรกิจของตัวเอง ก่อนสั่งทำกระเป๋าผ้าเป็นสื่อการตลาด

การทำความรู้จักประเภทธุรกิจของตัวเองและเลือกผู้ให้บริการหรือผู้ผลิตกระเป๋าผ้าที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะแต่ละประเภทของธุรกิจก็มีความแตกต่างกันในเรื่องของ ความซับซ้อน ข้อจำกัด ขนาดของธุรกิจ และค่าใช้จ่าย ซึ่งธุรกิจแบบ B2B มักมีความยุ่งยากซับซ้อนกว่า เนื่องจากกระบวนการจัดซื้อมีความยุ่งยากมากขึ้น ต้องอาศัยผู้ตัดสินใจจำนวนมากเพราะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ขององค์กรเป็นหลัก

ซึ่งแตกต่างจากการซื้อขายโดยตรงกับผู้ซื้อที่สามารถตัดสินใจได้เอง และกระบวนการสั่งทำกระเป๋าผ้าจะมีช่วงเวลาตัดสินใจที่เร็ว บางรายสามารถจบคำสั่งซื้อกระเป๋าผ้าได้ภายใน 1 วัน และส่วนธุรกิจแบบ B2B จะมีระยะเวลาการทำสัญญาหรือการซื้อขายมักจะยาวนานกว่าการซื้อขายแบบ B2C เพราะลูกค้าในธุรกิจ B2B ไม่ใช่ผู้ใช้บริการ แต่เป็นเสมือนหุ้นส่วนระยะยาวของกันและกัน

กล่าวคือธุรกิจแบบ B2B จะเน้นความสำคัญในเรื่องการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้าทางธุรกิจ กระเป๋าผ้ามีจะคอนเซ็บของแบรนด์กำหนด โดยทางแบรนด์หรือบริษัทจะใช้สื่อโฆษณาเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้า และมีฝ่ายขายช่วยดันยอดขายให้ แต่ B2C จะเน้นเรื่องผลิตภัณฑ์ และความพึงพอใจของลูกค้า ถุงผ้าหรือกระเป๋าผ้าพิมพ์แบรนด์ต้องสร้างเพื่อแก้ปัญหานั่นเอง อีกทั้งยังมีวิธีการดึงดูดลูกค้าที่ต่างกันโดย B2C ใช้โฆษณาและโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดให้เกิดการซื้อขายต่างกับ B2B ที่ใช้ความน่าเชื่อถือของเจ้าของธุรกิจเป็นสำคัญ

 

ธุรกิจแบบ B2B ที่เหมาะกับการผลิตกระเป๋าผ้าพิมพ์โลโก้

  • ธุรกิจแบรนด์กระเป๋าผ้าที่ผลิตเพื่อส่งออกสินค้าพรีเมี่ยมเพื่อขายต่างประเทศ เป็นล็อตใหญ่ๆ เช่น ธุรกิจผลไม้อบแห้ง สามารถใช้ถุงผ้าใส่สินค้าเพื่อสร้างความพรีเมี่ยมให้กับผลิตภัณฑ์แทนการใช้ถุงพลาสติก นอกจากนี้ถุงผ้าเป็นสินค้าที่สามารถระบายอากาศดี อีกทั้งแบรนด์ต่างๆ ยังนิยมนำถุงผ้าพิมพ์แบรนด์ใส่สินค้าเพื่อป้องกันรอยขีดข่วน ถุงผ้าจึงเหมาะกับสินค้าส่งออกบางประเภทที่ต้องการเพิ่มมูลค่า อย่าง ธุรกิจเครื่องประดับ และกระเป๋าแบรนด์เนม

  • แบรนด์กระเป๋าผ้าที่ผลิตสินค้าเพื่อขายส่ง ซึ่งปัจจุบันแบรนด์กระเป๋าผ้าขายส่งไม่จำเป็นต้องมีโรงงานผลิตกระเป๋าผ้าเป็นของตัวเอง การมีโรงงานผลิตที่เชื่อถือได้ผลิตสินค้าตาม catalog ที่ออกแบบช่วยทำให้แบรนด์ควบคุมต้นทุน และคุณภาพได้ง่ายกว่า ธุรกิจกระเป๋าผ้าที่ต้องการสั่งผลิตเจาะกลุ่มเพื่อขายส่ง การมีแบบ Catalog ของกระเป๋าผ้า จะระบุขนาด เนื้อผ้า วัสดุไว้ทั้งหมด

    และมีทีมงานดีไซน์เป็นของตัวเอง ซึ่งรูปแบบกระเป๋าผ้าพิมพ์แบรนด์แบบเดียวกัน อาจแบ่งผลิตเป็นหลายสี หรือทรงกระเป๋าผ้าแบ่งพิมพ์ลายเป็นล็อตหลายลาย เช่นแบรนด์ Naraya , GQ , coopershop, Plasticbag เป็นต้น โดยแบรนด์จะทำหน้าที่ส่งสินค้าให้ตัวแทนจำหน่ายในราคาส่ง และตัวแทนก็นำสินค้าไปขายให้รายย่อยเพื่อทำกำไรต่อไป

  • ธุรกิจที่มีแบรนด์เป็นของตัวเอง โดยตัวธุรกิจอาจมีสินค้าอื่นเป็นสินค้าหลัก และตัวกระเป๋าผ้าสกรีนแบรนด์เป็นสินค้าเสริม เช่น แบรนด์เครื่องแต่งกายกีฬา แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่น แบรนด์รองเท้า แบรนด์เครื่องประดับ เครื่องสำอางค์ ฯลฯ และมีกระเป๋าผ้าพิมพ์ลายเป็นไอเท็มเสริม เพื่อเป็นตัวเลือกการจับจ่ายสินค้าให้กับลูกค้า


    การทำกระเป๋าผ้าพิมพ์แบรนด์จึงเป็นส่วนสำคัญที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจ แบรนด์ที่ขายเป็นของตัวเองซึ่งมีสาขา และร้านขายปลีกจำนวนมาก เช่น SuperSport , Fila , Nike , Sketcher , สมาคมกีฬาจังหวัดต่างๆ

  • ธุรกิจอื่นๆที่ใช้กระเป๋าผ้าเป็นของพรีเมี่ยม เพื่อเป็นของที่ระลึก โดยทำโปรชั่นพร้อมกันทุกสาขา และมีสาขาค่อยกระจายสินค้า ประเภทของธุรกิจที่ใช้ถุงผ้าลดโลกร้อนมาช่วยโปรโมท อาจจะเป็นร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ เช่น 7-11 , Greyhound , After You, Starbucks เป็นต้น แม้กระทั่งร้ายขายยาก็เคยมาให้โรงงานผลิตกระเป๋าผ้าให้

  • ธุรกิจที่ขายแฟรนไชส์ เช่น ร้านขายชา ร้านอาหาร อย่างแบรนด์ Amazon Cafe, Cha Tra Mue ก็ใช้กลยุทธ์ถุงผ้าเป็นบรรจุภัณฑ์แทนถุงพลาสติก โดยมีการนำถุงผ้าพิมพ์แบรนด์แจกหรือจำหน่ายให้กับลูกค้าที่ซื้อสินค้าร่วมรายการ ซึ่งการใช้ถุงผ้าหรือกระเป๋าผ้าพิมพ์ลายสวยๆ ควบคู่กับสินค้าหลักภายในร้านเพื่อให้เป็นกระเป๋าสำหรับช้อปปิ้งยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ดีให้กับแบรนด์ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกด้วย

  • บริษัทหรือองค์กรที่พนักงานจำนวนมาก ที่เห็นชัดเช่น Turemove , AIS, Lazada, SCG หรือหน่วยงานราชการ ก็มีความต้องการสั่งทำกระเป๋าผ้าพิมพ์แบรนด์เพื่อให้กับพนักงานในองค์กรใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ กระเป๋าผ้าพิมพ์โลโก้หน่วยงานจึงเป็นเสมือนส่วนหนึ่งของเครื่องแต่งกายขององค์กร

    ซึ่งหน้าที่ของกระเป๋าผ้า เช่น ถุงผ้าใส่เอกสารเคลมของลูกค้าที่มาแจ้งที่สาขา ใส่อุปกรณ์ช่างของพนักงาน ใช่ทำโครงการ CSR ซึ่งบริษัทจะมีสาขาทั่วประเทศและพนักงานทุกคนต้องใช้กระเป๋าผ้าที่ทางบริษัทจัดทำให้เพื่อเป็นแบบแผนเดียวกันทั้งองค์กร 

  • ธุรกิจไอทีและธุรกิจเกมส์ เนื่องจากการแข่งขันที่สูงขึ้นทำให้แม้แต่ธุรกิจไอทีและธุรกิจเกมส์ที่คนมองว่ามีการเปลี่ยนแปลงไว ก็ยังหันมาผลิตกระเป๋าผ้าพิมพ์แบรนด์ collection มากมาย ที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นอุปกรณ์เสริม นอกจากนี้กระเป๋าผ้าบางรูปแบบ เช่น ซองซิปผ้าสำหรับใส่โน๊ตบุ๊ค กระเป๋าผ้าแบบสายคล้องคอปรับได้ ก็ยังเป็นสินค้าแฟชั่นสำหรับชาวไอที ธุรกิจไอทีจึงมีความเกี่ยวข้องกับการทำถุงผ้าหรือกระเป๋าผ้าค่อนข้างมาก


    เพราะปฏิเสธไม่ได้ทุกครั้งที่ซื้อคอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็นแบบตั้งโต๊ะหรือแบบโน๊ตบุ๊กของแถมที่ลูกค้ามักได้รับคือ กระเป๋าเป้ซิปรูดสะพายหลัง พิมพ์แบรนด์ของยี่ห้อต่างๆ ที่แถมพร้อมหูฟัง เมาส์และ gadget อื่นๆ ซึ่งรูปแบบและสเปคของกระเป๋าผ้าที่ใช้จะถูกกำหนดโดยบริษัทสำนักงานใหญ่ สำหรับใครที่กำลังอยู่ในธุรกิจไอทีก็สามารถนำกลยุทธ์การทำกระเป๋าผ้าไปใช้ได้เลย


นี้เป็นเพียงบางส่วนที่โรงงานผลิตกระเป๋าผ้า อยากจะยกตัวอย่างเพื่อให้ชัดเจนว่า จริงๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นธุรกิจระดับ B2B จะทำการตลาดที่เน้นความน่าเชื่อถือก็สามารถประยุกต์กระเป๋าผ้าได้ นอกจากนี้ก็ยังมีกลุ่มองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ก็เลือกใช้กระเป๋าผ้าเป็นสื่อการตลาด เช่น Apcom.org , UNHCR เป็นต้น เมื่อทราบกันดีแล้วว่าธุรกิจ B2B อะไรบ้างที่เหมาะกับการผลิตกระเป๋าผ้าหรือถุงผ้าพิมพ์แบรนด์  ต่อไปสิ่งที่ต้องรู้คือ โรงงานผลิตกระเป๋าผ้าที่ดีและสามารถรองรับกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง thaidesignguru จะแบ่งเป็นข้อๆได้ดังนี้

คุณสมบัติของโรงงานผลิตกระเป๋าผ้า สำหรับธุรกิจ B2B : Business to Business

อย่างที่ทราบกันดีแล้วว่ารูปแบบของการสั่งทำกระเป๋าผ้าของ B2B จะมีขอบเขตงานที่ค่อนข้างใหญ่การจะมีโรงงานผลิตกระเป๋าผ้าที่รองรับ ต้องรูปแบบของบริษัทและมีทีมงานที่เพียงพอ ซึ่งทาง thaidesignguru จะสรุปเป็นข้อให้ดังต่อไปนี้

  1. ความเป็นมืออาชีพน่าเชื่อถือ (Authority) : เพราะอย่าลืมว่าการติดต่อคำสั่งซื้อที่มียอดการสั่งซื้อจำนวนมาก บางยอดการสั่งผลิตกระเป๋าผ้าพิมพ์แบรนด์อาจมีมูลค่าหลักแสนถึงหลักล้าน ดังนั้นไม่ใช่งานเล่นๆ ที่ใครก็ทำได้ หากโรงงานผลิตกระเป๋าผ้าที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพและไม่เข้าใจการทำงาน ก็อาจจะทำให้การผลิตกระเป๋าผ้าของแบรนด์ไม่ราบเรียบอย่างที่คิด

    ซึ่งนิยามของความเป็นมืออาชีพคือ ตอบราคาได้รวดเร็ว สื่อสารได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ช่างมีประสบการณ์ด้านการตัดเย็บที่ดี บวกกับมีทีมงานที่ใจด้านบริการอย่างมืออาชีพ ก็จะทำให้คำสั่งซื้อของลูกค้าสำเร็จได้อย่างง่ายขั้นนั้นเอง

  2. ทำงานภายใต้ความซับซ้อน (Complexity) : หากคุณเจอโรงงานผลิตกระเป๋าผ้าที่ใช่ ใครละอยากจะเปลี่ยนบ่อยๆ เพราะธุรกิจกระเป๋าผ้าประเภท B2B มีกระบวนการตัดสินใจซื้อ (Buying Decision Process) หลายขั้นตอน การสั่งทำกระเป๋าผ้าหรือถุงผ้าแต่ละแบบต้องผ่านความคิดเห็นของหลายฝ่าย  เช่น ผู้ริเริ่ม อาจจะเป็นฝ่ายการตลาดผู้คิดคอนเซ็นสินค้า นักออกแบบกราฟิก ฝ่ายพัฒนาสินค้าให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย ผู้ตัดสินใจ ฝ่ายจัดซื้อ รวมถึงฝ่ายบัญชีผู้ดูแลเรื่องการชำระเงิน ซึ่งกระบวนการอันซับซ้อนนี้หากคุณทำงานร่วมกับโรงงานผลิตกระเป๋าผ้าที่มีความเป็นมืออาชีพไม่มากพอ รับรองว่าเขาไม่อาจเข้าใจ และก็อาจจะได้รับการบริการที่ไม่มีประสิทธิภาพได้

  3. มีผลงานที่เคยทำให้แบรนด์อื่นชัดเจน (Portfolio) : ปัจจุบันหลายคนเข้ามาจับตลาดผู้ผลิตกระเป๋าผ้าจำนวนมาก ทั้งเป็นโรงงานผลิตกระเป๋าผ้าเองหรือแบบที่เป็นตัวกลางค่อยประสานงาน (boker) ช่องทางการแสดงผลงานทำให้คุณทราบได้ว่าโรงงานผลิตกระเป๋าผ้านั้นมีตัวตนและมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ ในธุรกิจกระเป๋าผ้าแบรนด์แบบ B2B คุณสมบัติของโรงงานผลิตกระเป๋าผ้าที่กำลังมองหาและตอบสนองความต้องการของธรุกิจกลุ่มนี้คือ โรงงานที่มีผลงานเคยผลิตสินค้าให้กับลูกค้ารายใหญ่มาก่อน และควรอยู่ในรูปแบบของบริษัทไม่ใช่นามบุคคล สามารถออกใบกำกับภาษีได้

  4. กำลังการผลิตที่ครอบคลุมความต้องการ (Capacity) : เพราะว่าหากแบรนด์ต้องการสั่งทำกระเป๋าผ้าล็อตใหญ่ๆ เพื่อไปขายส่งให้กับหน้าร้าน สาขา จำเป็นต้องมีโรงงานผลิตกระเป๋าผ้าที่มีกำลังผลิตจำนวนมากและเพียงพอต่อความต้องการในช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งข้อดีการสั่งผลิตกระเป๋าผ้าจำนวนมากคือ จะได้ราคาต่อชิ้นในราคาถูกกว่าลูกค้าทั่วไป เพราะการสั่งทำกระเป๋าผ้าจำนวนมาก ทำให้โรงงานสั่งวัตถุดิบของแบบกระเป๋าผ้าหรือถุงผ้าได้ครั้งจะเยอะๆ

  5. มีทีมออกแบบดีไซน์และส่วนพัฒนาสินค้า (Design and developed) : บางแบรนด์ได้วางแผนการผลิตกระเป๋าผ้าเป็นช่วงๆ แผนกันยาวๆ ทั้งปี การมีโรงงานที่มีทีมช่วยออกแบบกระเป๋าผ้าและพัฒนารูปแบบถุงผ้าให้มีความทันสมัย ทำให้แบรนด์สามารถมองเห็นความเป็นไปได้ในการพัฒนากระเป๋าผ้านั้นให้ดีและมีฟังก์ชั่นการใช้งานตรงตามกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

    ซึ่งการช่วยกันวางแผนระยะยาวทำให้โรงงานกระเป๋าผ้าสต็อคอะไหล่บางชนิด ที่ต้องสั่งทำพิเศษไว้ให้เพื่อลดความเสี่ยงต่อการไม่ได้ของตามกำหนด เมื่อโรงงานผลิตกระเป๋าผ้าได้ต้นทุนวัตถุดิบในราคาต้นทุน ส่งผลให้ราคาถุงผ้าที่ออเดอร์ถูกลงตามไปด้วย

  6. มีการส่งสินค้าทั่วประเทศ (delivery service) : มีประสบการณ์ในด้านการกระจายสินค้าให้ Warehouse ได้ และสามารถประสานงานสินค้าสำหรับส่งภายในประเทศหรือต่างประเทศได้ เพราะโรงงานผลิตกระเป๋าผ้าส่วนใหญ่จะทำหน้าที่เพียงผลิตสินค้าอย่างเดียว การดูแลการขนส่งหรือกระจายสินค้าไปยัง Warehouse เป็นเรื่องยุ่งยาก ทำให้ลูกค้าต้องหาตัวกลางมาคอยประสานงานให้ ดังนั้นการมีโรงงานทำกระเป๋าผ้าที่มีความรู้และสามารถประสานส่วนนี้ได้ จะทำให้แบรนด์เกิดความสะดวกสบายและทำงานได้ง่ายขึ้น


แต่อย่างไรก็ตามไม่เพียงแต่ธุรกิจประเภท B2B เท่านั้นที่เหมาะกับการใช้กระเป๋าผ้าพิมพ์โลโก้ เข้ามาช่วยเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจ ยังคงมีธุรกิจประเภท B2C ซึ่งสำหรับโรงงานผลิตกระเป๋าผ้า thaidesignguru ถือว่ากลุ่มนี้คือความท้าทายที่เป็นส่วนหนึ่งที่มีโอกาสพัฒนาสินค้าไปด้วยกัน อีกทั้งส่วนใหญ่ลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็น Start up และ SME ที่มีไอเดียที่น่าสนใจที่นำถุงผ้าไปใช้เป็นสื่อ marketing ของตัวเอง ซึ่งธุรกิจแบบ B2C ที่เหมาะกับการผลิตกระเป๋าผ้าพิมพ์โลโก้ มีดังนี้

ธุรกิจแบบ B2C ที่เหมาะกับการผลิตกระเป๋าผ้าพิมพ์โลโก้

  • ธุรกิจศูนย์กวดวิชาที่ต้องการสั่งทำกระเป๋าผ้าหรือถุงผ้าเพื่อแจกนักเรียน นักศึกษาที่มาสมัครครอส หรือกลุ่มโรงเรียน มหาวิทยาลัย ถึงแม้ว่าไม่ได้เป็นธุรกิจชัดเจนเป็นกลุ่มสถานศึกษา ก็เป็นอีกกลุ่มที่มีสั่งผลิตกระเป๋าผ้าเข้ามาเป็นประจำทุกปี เนื่องด้วยแต่ละปีมีนักเรียน นักศึกษา เข้าสู่รั้วสถาบันจำนวนมาก กระเป๋าผ้าพิมพ์โลโก้โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ก็ยังคงเป็นสินค้าที่สร้างรายได้เป็นอย่างดี นอกจากรายได้ที่มาจากการผลิตกระเป๋าผ้าเพื่อจำหน่าย การออกแบบกระเป๋าผ้าที่ดูสวยงามก็ทำผู้ใช้งานภาคภูมใจที่ได้ใช้งานและขณะเดียวกันก็แบกภาพลักษณ์ของสถาบันในเวลาเดียวกัน

  • หน่วยงานราชการที่ต้องการสั่งทำกระเป๋าผ้าพิมพ์โลโก้เพื่อแจกงานสัมมนา หรือเพื่อเป็นของที่ระลึกสำหรับประชาสัมพันธ์โครงการ ตัวอย่างหน่วยงานราชการที่เคยสั่งทำกระเป๋าผ้าพิมพ์โลโก้กับทาง thaidesignguru เช่น การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทำเนียบรัฐบาล สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นต้น

  • ธุรกิจจัดหาของชำร่วยงานแต่งงาน หรือเอเจนซี่ที่ต้องการสั่งทำถุงผ้าหรือกระเป๋าผ้าพิมพ์โลโก้เพื่อแจกงานแต่งงาน เพราะนอกจากการ์ดแต่งงาน ภาพถ่ายพรีเวดดิ้ง การหาของชำร่วยที่สื่อความหมายดีๆ อย่างถุงผ้า ที่ความหมายถึงความมั่งคั่งถุงเงินถุงทองก็ได้รับความนิยม

  • ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจสายการบินที่ต้องการกระเป๋าผ้าเพื่อใส่สินค้าให้กับลูกค้า amenity kit เช่น สบู่ แชมพู ยาสะผม ขวดเล็กๆ  ซึ่งบางโรงแรมหรือสายการบินระดับ First class ก็นิยมสั่งทำกระเป๋าผ้าสวยๆ พิมพ์แบรนด์เพื่อใส่เสื้อผ้าชุดคลุม ให้กับแขกที่ใช้บริการเพื่ออำนวยความสะดวก และแขกบางท่านก็นิยมเก็บชุดพรีเมี่ยมพร้อมถุงผ้าเพื่อเป็นของสะสม

  • ธุรกิจรับจัดงานสัมมนา งานอีเว้นท์ รับจัดประชุม ที่ต้องการของแจกที่ระลึก เช่น สัมมนาทางการตลาด จัดอบรมเกี่ยวกับหุ้น หรืองานจัดงานโครงการแลกเปลี่ยนทุนเรียนต่อ  กระเป๋าผ้าพิมพ์โลโก้คือ สื่อที่ใช้เพื่อประชาสัมพันธ์องค์กร สามารถพิมพ์เนื้อหาโครงการ ช่องทางติดต่อ ความต้องการสั่งทำกระเป๋าผ้าเพื่อเป็นของแจกที่ระลึก ให้กับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

  • กระเป๋าผ้าพิมพ์แบรนด์เป็นสินค้าหรือไอเท็มขายในหน้าร้านหรือช่องทางธุรกิจ ที่ต้องการให้ถุงผ้าพรีเมี่ยมเป็นของแจกสำหรับสมาชิก ที่ซื้อบริการประเภทบริการ ก็อย่างเช่น คอนโด สปา ฟิตเนส บริษัททัวร์ เป็นต้น

 

คุณสมบัติของโรงงานผลิตกระเป๋าผ้า สำหรับธุรกิจ B2C :  Business to Customer 

  1. ตอบราคาได้รวดเร็ว การตอบราคาที่รวดเร็วจะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้รวดเร็ว เพราะหลายครั้งลูกค้าที่เข้ามาสอบถามราคาจะเป็นกลุ่ม SME ที่ไม่ได้มีฝ่ายจัดซื้อโดยตรง การตอบราคาที่รวดให้ลูกค้าทำให้ช่วยประหยัดเวลา และมีเวลาดูแลงานส่วนอื่นต่อไป พิจารณาว่าตรงงบหรือไหม จัดการส่วนของการออกแบบ การเตรียมงาน เป็นต้น โรงงานผลิตกระเป๋าผ้าอย่าง thaidesignguru จึงใส่ใจและให้ความสำคัญประเด็นนี้เป็นอย่างมาก
  2. จำนวนขั้นต่ำที่ไม่มากจนเกินไป และน้อยจนเกินไป เช่น 100 300 500 ชิ้นขึ้นไป การสั่งผลิตกระเป๋าผ้าของธุรกิจ B2C น้อยกว่าของ B2B จึงทำให้ผู้ผลิตกระเป๋าผ้าของธุรกิจ B2C มีมากกว่า การบริการที่ดีจึงเป็นอีกทางเลือกที่ทำให้โรงงานมีความแตกต่าง 
  3. ความเป็นมืออาชีพ โรงงานผลิตกระเป๋าผ้าที่ดีควรมีความสามารถในการให้คำแนะนำด้านรูปแบบกระเป๋าผ้า ถุงผ้า ได้เป็นอย่างดีแก่ลูกค้า สามารถเลือกรูปแบบกระเป๋าผ้าที่เหมาะสมกับงบประมาณ และวัตถุประสงค์การใช้งาน โรงงานกระเป๋าผ้าจึงต้องมีความรู้ ความเชี่ยวชาญและรู้จักเนื้อผ้าและการตัดเย็บกระเป๋าผ้าเป็นอย่างดี
  4. ผลิตส่งของตรงเวลา 

 

6 กลยุทธ์การทำถุงผ้า สื่อ Marketing สำหรับธุรกิจ B2B และ B2C

  1. การเพิ่มฐานลูกค้าเพื่อสร้างรายได้ ไม่ต่างจากการผลิตโปรชัวร์แจก วัฏจักรจักรการขาย (Sale Cycle) ยาว เริ่มตั้งแต่ การหาลูกค้าใหม่ ติดต่อนัดหมาย เข้านำเสนอสินค้าหรือบริการ ติดตามความคืบหน้า เจรจาต่อรอง ปิดการขาย กระทั่งส่งมอบสินค้าและดูแลหลังการขาย

  2. สินค้าที่ร่วมแคมเปญต้องตอบสนองด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้แบรนด์หรือบริษัทที่สั่งผลิตกระเป๋าผ้ายังมีส่วนช่วยสนับสนุนให้แรงงานไทยที่มีคุณภาพยังคงมีงานทำ เพราะถึงแม้ปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมายที่สามารถเข้าแทนที่แรงงานคนได้ แต่การผลิตถุงผ้าหรือกระเป๋าผ้าก็ยังต้องเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น

  3. ความน่าเชื่อถือของผู้ผลิตกระเป๋าผ้า เพราะผลิตสินค้าให้กับธรุกิจ B2B จำเป็นของมี partner โรงงานผลิตกระเป๋าผ้าที่ไว้ใจได้ คือ สามารถผลิตกระเป๋าผ้าได้จำนวนมากในระยะเวลาที่กำหนด ดูแลแบบครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบจนถึงด้านขนส่ง ความเชี่ยวชาญการผลิตกระเป๋าผ้าของแบรนด์ได้แบรนด์รูปแบบ เพราะการเปลี่ยน partner ทำให้แบรนด์ หรือองค์กรต้องเรียนรู้ และเริ่มพัฒนาสินค้าใหม่ในทุกครั้ง มีการโรงงานผลิตกระเป๋าผ้าที่สามารถเป็น partner กับคุณได้ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้สินค้าของแบรนด์ที่ถูกใจ ที่สำคัญการมีผลงานหรือประสบการณ์ การันตี ที่เคยทำให้แบรนด์ดังอื่นๆ ทำให้แบรนด์คุณสบายใจได้เป็นอย่างมาก

  4. กระเป๋าผ้าต้องเเป็นสื่อสินค้าที่มากกว่าการบอกต่อ แต่เป็นสินค้าที่ต้องอยู่ได้ในทุกการทำตลาด คือ
    • interruption marketing  การใช้กระเป๋าผ้าพิมพ์แบรนด์เป็นสื่อที่เรียกว่าสนใจระหว่างกิจกรรม เหมือนกับการที่เราดูหนังและเจอโฆษณาคั่น ดังนั้นในกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ถ้าแบรนด์สามารถทำให้กระเป๋าผ้าพิมพ์โลโก้ กระจายอยู่ในกิจกรรมของคนทั่วไปได้ ก็เหมือนการบังคับให้เจอสื่อเคลื่อนที่ในทุกอริยาบถของลูกค้าของคุณ
    • event marketing การเลือกถุงผ้า หรือกระเป๋าผ้าคอลเลคชั่นพิเศษ ให้เป็นส่วนนึงในกิจกรรมประชาสัมพันธ์ ช่วยดึงความสนใจได้เป็นอย่างมาก สำหรับผู้เริ่มต้นแบรนด์ที่กำลังจะก้าวมาเป็นแบรนด์ใหญ่ สิ่งที่คุณต้องทำคือการจัดอีเว้นท์โปรโมทแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบูธ การสัมมนา ดังนั้นสื่อที่จะสามารถใช้ข้อมูลประชาสัมพันธ์ได้อย่างแนบเนียบ สวย ดูเป็นสินค้าแฟชั่น และผู้ได้ชื่นขอบอย่างแน่นอนเพราะสามารถใช้งานได้จริง หนึ่งในนั้นคือ ถุงผ้าพรีเมี่ยม หรือการทำถุงผ้าลดโลกร้อน
    • experiential marketing  การใช้ถุงผ้าพิมพ์ลายเป็นสื่อกลางแห่งการลงมือทำและความสัมพันธ์ของแบรนด์ผ่านการ workshop เพราะการใช้กลยุทธ์สร้างประสบการณ์ให้ลูกค้า ไม่สามารถสื่อถึงความเป็นตัวตนของลูกค้าได้ทุกคน เราจึงควรใช้กลุ่มลูกค้าที่เป็นแฟนพันธ์ุแท้ชวนคนที่เรารักมาร่วมกิจกรรมดีๆด้วยกัน ซึ่งโดยปกติเราจะเป็นแบรนด์ทำกระเป๋าผ้าในลวดลายของตัวเพื่อแจก

      แต่ในทางกลับกันเราลองสั่งผลิตถุงผ้าที่มีลวดลายให้ลูกค้าสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างลวดต่อให้สมบูณร์บาง เช่นการออกแบบลายกระเป๋าผ้า ที่มี background เป็นรูปทรงเลขาคณิต หรือเป็นลายเส้นที่มีโลโก้องค์กรหรือแบรนด์ที่ไม่ต้องใหญ่มาก แล้วให้ผู้ที่มา workshop สามารถมีส่วนร่วมในการแต้มสีพู่กัน เลือกสีระบายด้วยตัวเอง และได้กระเป๋าผ้าที่เขาเป็นส่วนหนึ่งในผลงานของเขา
       
  5. การสร้างความต่อเนื่องใน collection กระเป๋าผ้า แน่นอนว่าระดับการทำการตลาดแบบ B2B หรือ B2C คือการผลิตของให้แบรนด์ขายลูกค้ารายย่อย จำเป็นต้องมีการวางแผนผลิตสินค้าตามช่วงเทศกาล และมีรูปแบบการวางดีไซน์ทางการตลาดที่ชัดเจน เนื่องจากฤดูกาลที่เปลี่ยนไป สไตล์การแต่งตัวก็เปลี่ยนไป การออกแบบกระเป๋าผ้าหรือถุงผ้า ให้รองรับการกายแต่งกายที่หลากหลายทำให้แบรนด์สนุกกับการปล่อยสินค้า และลูกค้าเองก็สนุกกับการติดตามผลงานของแบรนด์ดีไซน์เนอร์เช่นกัน นอกจากนี้ข้อดีของการสร้างความต่อเนื่องคือ ทำให้ง่ายต่อการควบคุมต้นทน และ production leadtime ที่แม่นยำขึ้น

  6. สร้างแบรนด์ Awaness การใช้กระเป๋าผ้าเป็นสื่อการตลาดและสร้างแบรนด์ awareness ที่ดี ไม่ใช่เพียงแต่กระเป๋าผ้าแบรนด์ของเราเป็นสื่อกลางของการทำโปรโมชั่นเท่านั้น หรือเพื่อเป็นของแจก ใช้ประสัมพันธ์ สินค้าเพื่อขาย หรือ เป็นส่วนหนึ่งของยูนิฟอร์ม รูปแบบของกระเป๋าผ้าที่สั่งทำไม่ควรมุ่งไปที่การขายหรือการลดต้นทุนให้ถูกที่สุด

    และควรมีไลฟ์สไตล์ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายก็เพื่อให้มีสเต็ปที่ช่วยให้แบรนด์ใกล้ชิดกับลูกค้า ให้กระเป๋าผ้าพิมพ์แบรนด์ของเราเข้าถึงการใช้งาน สไตล์การแต่งตัว แฟชั่น และยังคงตรงบุคคลิกที่เป็นตัวตนเฉพาะของแบรนด์ที่ match กับกลุ่มเป้าหมาย เพราะนั้นจะทำให้เขากลายเป็นสาวกที่ดีของคุณในที่สุด

    โดยเฉพาะอย่างสำหรับแบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่วงการกระเป๋าผ้าแฟชั่น และต้องการสั่งทำกระเป๋าผ้าหรือถุงผ้าแฟชั่น การให้ความใส่ใจในคุณภาพ และรูปแบบกระเป๋าที่มาก่อนราคาและต้นทุนที่ต่ำ จะทำให้แบรนด์กระเป๋าผ้าแฟชั่นเป็นที่รู้จัก มีความน่าเชื่อถือ และตอบโจทย์ความต้องการ ซึ่งนั้นก็หมายถึงยอดขายที่จะตามมาในอนาคตอย่างแน่นอน

 

นอกจากจะมีธุรกิจแบบ B2B และ B2C ยังมีกลุ่มที่เรียกว่า C2C : Customer to Customer ส่วนกลุ่มลูกค้า C2C กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ จะเป็นเหล่าศิลปินที่มีไอเดียเรื่องงานศิลปะ และชอบออกแบบผ้าขายจำนวนไม่มาก คำถามสำคัญที่ต้องถามโรงงานผลิตกระเป๋าผ้าให้ก็คือ ขั้นต่ำที่คุณรับได้ เพราะกำลังซื้อของลูกค้าแต่ละกลุ่มไม่เท่ากัน บางคนอาจต้องการเริ่มลงทุนผลิตกระเป๋าผ้าที่จำนวน 10 ใบ 50 ใบ หรือ 100 ใบ ดังนั้นโรงงานผลิตกระเป๋าผ้าที่กำหนดขั้นต่ำไว้ที่ 300 หรือ 500 ใบ จะไม่ตอบโจทย์ ทางเลือกที่ทำได้ คือ การซื้อกระเป๋าผ้าหรือถุงผ้าที่มีสต็อคมาขายเพื่อทดลองตลาด

 

รู้ได้อย่างไรว่าเราคือธุรกิจแบบ C2C เพราะวัตถุประสงค์ของการมองหาโรงงานผลิตของกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่มองหารายได้เสริม มีช่องทางการจำหน่าย ในช่องทางออนไลน์ของตัวเอง สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มนี้ หรือกำลังเริ่มเข้าตลาดกระเป๋าผ้า อาจเริ่มจากการซื้อแบบกระเป๋าผ้าในสไตล์ที่ต้องการ ในกลุ่มของ B2C มาขายได้ ข้อดีคือ ทำให้ได้กระเป๋าผ้าที่หลากหลาย ใช้งบประมาณไม่มากและสามารถทดลองศึกษาตลาดได้ในเวลาเดียวกัน

หากมีลูกค้ามาอุดหนุนเราจำนวนมาก ผนวกกับเก็บฐานข้อมูลของลูกค้าที่ชื่นชอบในแฟชั่นกระเป๋าผ้าหรือถุงผ้ามากพอ เราก็สามารถออกแบบกระเป๋าผ้าเป็นคอลเลคชั่นของตัวเอง ที่ตรงกับความต้องการของตลาดได้ และในที่สุด ธุรกิจของเราจะเติบโตเป็นกลุ่ม B2C และ B2B ได้ไม่ยาก

 

สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่
https://www.thaidesignguru.com
โทร 088-6532999 หรือแอดไลน์
LineID : @designguru (มี @ ด้านหน้า) หรือคลิกเพื่อสแกนคิวอาร์โค้ด