มีลูกค้าหลายคนมาปรึกษา ว่าต้องการ สั่งทำกระเป๋าผ้าพิมพ์สกรีน เพื่อขายสร้างรายได้ แต่ไม่มีประสบการณ์ต้องทำไง ก่อนอื่นหากคุณคือคนนึงที่ต้องการทำธุรกิจ มีสิ่งที่ต้องคำนึง นอกจากต้องรู้ว่า เราจะขายสินค้าอะไร ? ขายให้ใคร ? แล้ว เราต้องรู้ด้วยว่า เราจะขายสินค้าของเราที่ไหน ?
แต่… ในเมื่อการขายของหน้าร้าน ไม่เพียงพอต่อการเพิ่มยอดขาย ถึงแม้จะขยายสาขา และทราบไม่ว่า ร้านขายกระเป๋าผ้า ตามตลาดนัด ขายอย่างไรให้รายได้งาม แต่ถ้าเป็นหน่วยงานที่ต้องการ ผลิตถุงผ้าลดโลกร้อน อยากคนให้รู้จักแบรนด์กระเป๋าผ้า ซึ่งช่องทางที่หลายแบรนด์ ต้องไม่ควรพลาดเพราะไม่งั้น คู่แข่งของคุณอาจแซงหน้าคุณด้าน และในสมัยนี้ เราไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน หรือที่ตั้งของร้านเหมือนเมื่อก่อน ด้วยโลก “ อินเทอร์เน็ต ” ที่เชื่อมต่อเราทุกคนด้วย เราสามารถติดต่อสื่อสาร ซื้อ - ขายกันได้ผ่านเครือข่ายนี้ ไม่จำกัดเพศ วัย และประเทศ
จำนวนคนและลูกค้าที่เข้าสู่ตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้นในประมาณมากกว่า 1 ล้านคนต่อปี ผู้คนที่พร้อมจะเป็น กลุ่มเป้าหมายของเรา และมีสินค้ามากมายที่ขายอยู่บนตลาดออนไลน์ และถ้าเราเป็นเข้าของแบรนด์ ห้างร้าน หรือ หน่วยงานที่อย่างมีรายได้เสริม ผ่าน online marketing เราจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องไปอยู่ในมหาสุมทร ที่เต็มไปด้วยฝูงปลา นานาชนิดนั้นให้ได้ สินค้าที่ขายอยู่บนโลกออนไลน์ ไม่ได้มีเพียงแค่สมาร์ทโฟน , คอมพิวเตอร์ , แท็ปเลต เท่านั้น ตัวกระเป๋าผ้าแฟชั่น ก็เป็นสินค้ามาแรงที่ โรงงานผลิตกระเป๋าผ้า อย่าง thaidesignguru.com อยากจะนำมาเล่าสู่กันฟัง
ใครในที่นี้เคยช้อปปิ้ง และค้นหาสินค้า / ข้อมูลของแบรนด์กระเป๋าผ้า ใน google หรือ เว็บไซต์ e-commerce กันบ้าง เราได้พบว่า มีกระเป๋าผ้ามากมาย ที่ขายอยู่บนนั้น แต่สงสัยไหมว่ามีแบรนด์กระเป๋าผ้า ถุงผ้า พรีเมี่ยม ที่สกรีนแบรนด์ เกิดใหม่ขึ้นทุกวัน แต่ทำไมยังคงมีแบรนด์ที่ขายดีและสร้างรายได้มหาศาล ดังนั้นการศึกษาช่องทางการขายในออนไลน์จึงเป็นอีกช่องทางซื้อ - ขายหนึ่ง ที่ทุกแบรนด์ และธุรกิจควรให้ความสำคัญ
ศึกษาให้ดี ก่อนเริ่มทำธุรกิจออนไลน์ 5 ขั้นตอน การขายของออนไลน์ เพิ่มยอดขาย
ขั้นตอนที่ 1 : การเตรียมตัวให้พร้อม
นอกจากเรื่อง ผลิตถุงผ้า ตามแบบ ผู้ที่ต้องการขายกระเป๋าผ้าบนโลกออนไลน์ ที่เป็นผู้ที่เริ่มต้น ขายของออนไลน์ ควรศึกษาให้ดีก่อนว่า การขายของออนไลน์ สำคัญที่สุดคือ การสื่อสาร เพราะเราไม่สามารถเห็นใบหน้ากันได้ ดังนั้นเราควรคิดไว้ก่อนเลยว่า หากเราขายของข้อมูลอะไรบ้างที่ลูกค้าของเราต้องรู้ เช่น ขนาดของกระเป๋าผ้า ต้องบอกว่าได้ว่าแบบที่โชว์อยู่ในหน้าเว็บ มีขนาดเท่าไร จำนวนที่มีอยู่ในสต็อคจำนวนกี่ใบ แต่สำหรับ รับผลิตกระเป๋าผ้า ของทางโรงงานมีขั้นต่ำ 1,000 ใบ ทางโรงงานมีเคล็ดลับสำหรับผู้ที่ ทำกระเป๋าผ้ามือใหม่คือ ให้จับกลุ่มตลาดขายส่ง ก่อน เพราะเชื่อหรือไม่ว่าไม่ว่าจะขายของ 1 ชิ้น หรือ 1,000 ชิ้นก็ต้องใช้ความพยายามเท่ากัน
สำหรับคนที่เพิ่งเริ่ม ทำแบรนด์กระเป๋าผ้า อาจมองว่าจำนวน 1,000 ใบ อาจจะดูเยอะ เทคนิคที่ทำให้ยอดขายเติบโต คือ การสร้างเครือข่ายหรือตัวแทนจำหน่าย กระเป๋าผ้าแบรนด์ ซึ่งจุดนี้หลายคนอาจจะไม่ได้วางแผนไว้แต่ขอบอกเลยว่าเป็น กุญแจที่สำคัญมาก ถ้าเรามีตัวแทนที่ช่วยขายของบนโลกออนไลน์สัก 10 เว็บไซต์ และขายกระเป๋าผ้าให้เราเว็บไซต์ละ 100 ใบ ดังนั้นการจะขายกระเป๋าผ้าให้หมด 1,000 ใบ เป็นอะไรที่ไม่ได้ยากเกินเอื้อมอย่างแน่นอน
ประเด็นต่อไปคือ ภาพสินค้าต้องชัดเจน เป็นภาพที่ใช้โพสต์เพื่อขายของ ข้อมูลแรงบันดาลใจของลายที่พิมพ์ สกรีน หรือเรื่องราวของตัวการ์ตูนที่วาดขึ้นมา ต้องมีเอกลักษณ์ หากมีความคิดสร้างสรรค์ออกแบบกราฟฟิกเอง และสไตล์ลายไม่ซ้ำใคร ก็ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะฉะนั้นการสื่อสารต้องดำเนินไปด้วยความใจเย็น สื่อสารอย่างตรงจุด หมั่นตอบคำถามลูกค้า และควรมีวินัยในการทำธุรกิจ
อาจจะคิดว่า ใคร ๆ ก็สามารถทำธุรกิจออนไลน์ได้ แต่แท้จริงแล้ว การขายของออนไลน์ ต้องใส่ใจและทุ่มเทเวลา เพราะไม่ใช่ว่า เริ่มทำแล้ว ก็จะประสบความสำเร็จทันที ต้องมีขั้นตอนการศึกษา เรียนรู้ถึงความผิดพลาดและปรับปรุงแก้ไข อยู่ตลอดเวลา หากเราขาดความใส่ใจในส่วนนี้ไป พร้อมกับการไม่ขยันหาความรู้ ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้ การขายของออนไลน์ สิ่งที่ขายไม่ได้คือ เงินทุน เป็นในส่วนของเงินทุนที่ใช้ในการโปรโมท และโฆษณาบนช่องทางออนไลน์ ควรแยกออกจากเงินทุนที่ใช้ซื้อสินค้า เพื่อเลี่ยงความสับสน และหากเราต้องการทำให้ธุรกิจออนไลน์ ขายกระเป๋าผ้าของเรา มียอดขายเพิ่มขึ้น ต้องหมั่นโปรโมทตัวเอง เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้า มองเห็นแบรนด์เรา และดึงดูดลูกค้า เพื่อให้เกิดการสั่งซื้อให้ได้
ขั้นตอนที่ 2 : ได้โรงงานทำกระเป๋าผ้าดี มีคุณภาพ มีชัยไปกว่าครึ่ง
ในการขายของออนไลน์ โดยฌฉพาะกับธุรกิจแบรนด์กระเป๋าผ้า เราไม่จำเป็นต้องนำเข้าสินค้า จากต่างประเทศ เพราะเป็นการนำเข้า ทำให้กำไรของสินค้าเราลดลง เราสามารถติดต่อกับโรงงานผลิตกระเป๋าผ้า ได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ไม่ต้องเสียค่าจัดส่งขนประเทศ หรือแม้แต่ภาษีศุลกากร คุณก็สามารถขายกระเป๋าผ้าออนไลน์ ด้วยราคาดี พร้อมได้ของที่มีคุณภาพอีกด้วย
ขั้นตอนที่ 3 : การเพิ่มช่องทาง ขายของออนไลน์
ในเมื่อเรามีสินค้า ที่พร้อมจะ lunch ขายแล้ว สิ่งที่ควรทำลำดับต่อมา คือ การสร้างร้านค้าออนไลน์ หรือการทำให้คน รู้จักเรามากขึ้น ซึ่งช่องทางการขายของออนไลน์ ในปีนี้ มีบริการให้เราดาวน์โหลด และใช้ได้ฟรี ได้แก่ Facebook , Line , Instagram , Twitter , Shopee , Lazada และ Website อื่นๆ
เราสามารถทำการโปรโมทสินค้าของเรา บนช่องทางเหล่านี้ได้ฟรี ๆ แต่ถ้าหากอยากให้คนรู้จักเรามาขึ้น เราต้องทำการโฆษณาตัวเอง ผ่านการยิง Ads หรือการยิงโฆษณา เพื่อให้ลูกค้ามองเห็นเรา เป็นร้านค้าแรก
ซึ่งการสร้างช่องทางการขายของออนไลน์ นอกจากมีสินค้าในมือแล้ว วิธีการโปรโมทก็สำคัญ ทำอย่างไรให้ กระเป๋าผ้าของเรามีความน่าสนใจ ? สำหรับเทรนด์ ปี 2019 นี้ ลูกค้าในโลกออนไลน์ ไม่ได้แค่ต้องการสินค้าและจากไป แต่ลูกค้าต้องการประสบการณ์ที่ดี การแชร์ความรู้สึก ความสนุกสนานร่วมกัน
ถามว่า เทรนด์การบริโภคของลูกค้าเหมือนเดิมหรือไม่ ? คำตอบคือ การเลือกบริโภคสินค้า ของลูกค้าจะเปลี่ยนไปตามรสนิยม และความชอบส่วนตัว เพราะฉะนั้น บรรดาธุรกิจออนไลน์ทั้งหลาย ต้องมีการปรับตัว ภายใต้หลักการ 3 ข้อดังนี้
เพิ่มการรับรู้จากตา ด้วย “ ภาพ ”
การใช้ภาพสื่อสารออกมา เป็นสิ่งที่ลูกค้าสามารถเข้าใจ ถึงรายละเอียดสินค้า และตัดสินใจซื้อสินค้าได้เลยจากภาพ แต่ก็จะมีอุปสรรคสำหรับ แบรนด์กระเป๋า ที่อาจจะมีการเลียนแบบเกิดขึ้น อาจทำให้ลูกค้า เกิดความลังเลได้ เราสามารถทำให้ ลูกค้ามั่นใจและกู้ความน่าเชื่อถือกลับมาได้ ด้วยวิธีดังนี้
- การซูม ขยายภาพที่คุณภาพสูง โดยไม่เสียเวลาดาวน์โหลดภาพ และสามารภทำให้เห็นเนื้อผ้า ได้อย่างชัดเจนด้วย
- มีวิดีโอ นำเสนอการใช้สินค้า มีตัวเลขงานวิจัย ออกมาว่า 52% ของลูกค้า วิดีโอสามารถทำให้ลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้าได้
- ใช้ภาพ 3 มิติ เป็นการช่วยลดความยุ่งยาก ในการอธิบายสินค้า ที่มีดีไซน์ที่ค่อนข้างวิบวับ , ลายนูน เป็นต้น
รู้ใจลูกค้าด้วย เทคโนโลยี AI
ในอนาคต แบรนด์ต่าง ๆ จะขึ้นอยู่กับระบบปัญญาประดิษฐ์ AI ( Artificial Intelligence ) ที่สามารถโต้ตอบกับเราได้ และสามารถรวบรวมข้อมูล เพื่อเพิ่มยอดขายได้ด้วย เพราะการทำธุรกิจออนไลน์ ต้องพึ่งพาข้อมูล ยิ่งมีข้อมูลมาก ก็จะทำให้เราชนะคู่แข่ง และชนะใจลูกค้าได้ง่าย
ข้อมูลสำคัญที่เราควรคำนึงถึง ได้แก่ Conversion rate , Engagement เราสามารถติดตามพฤติกรรม ของผู้ที่คาดว่า จะมาเป็นลูกค้าเราได้ โดยอิงจากข้อมูลเหล่านี้นั่นเอง เครื่องมือ AI จะรวบรวมและนำเสนอในรูปของ Heat map ทำให้เราวิเคราะห์จุดที่ลูกค้าสนใจ เพื่อที่เราจะวางตำแหน่งแบรนด์กระเป๋าเรา ได้อย่างเหมาะสม
สร้างภาพการขายของออนไลน์ ให้กลายเป็นร้านที่มีอยู่จริง
เรามีตัวอย่างตลาดออนไลน์ดัง ๆ มากมายที่ประสบความสำเร็จ เช่น Alibaba , Amazon , Ebay , Aliexpress , Lazada ฯลฯ ทั้งหมดที่ยกตัวอย่างมา คือ การรวบรวมร้านค้าต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ จากทั่วทุกมุมโลก เข้ามารวมอยู่ในตลาดออนไลน์ ดังกล่าวนี้ เราสามารถที่จะซื้อ - ขาย สินค้ากับประเทศอีกฝั่งหนึ่งของโลกได้เลย
นอกจากนี้ ในตอนนี้ ตลาดออนไลน์อย่าง Alibaba ได้เปิดตัวร้านค้าต้นแบบ ที่นำเสนอการซื้อเสื้อผ้าด้วยระบบ AI มีชื่อว่า FashionAI โดยจะมีการแสดงข้อมูลสินค้า ที่ลูกค้าสนใจ พร้อมกับให้คำแนะนำสินค้าอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย
ในอนาคต จะมีการพัฒนาในส่วนของป้ายดิจิตอล ที่เป็นตัวเชื่อมต่อร้านค้าออฟไลน์และร้านออนไลน์นี้ เพื่อจะช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจออนไลน์ มียอดขายที่เพิ่มขึ้น ตลอดจน การสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าแน่นอน
ขั้นตอนที่ 4 : การสร้าง Traffic วิธีเพิ่มการมีตัวตน สำหรับธุรกิจออนไลน์
สำหรับในขั้นตอนนี้ เมื่อเรามีเว็บไซต์ หรือร้านค้าออนไลน์ของเราแล้ว เราก็ต้องทำการประกาศให้คนรู้ว่า ธุรกิจออนไลน์ของเราคืออะไร ? คล้ายกับการติดป้ายบอกทาง ไปสู่ร้านค้า นั่นก็คือ การสร้าง Traffic ให้กับเว็บไซต์ของเรา นั่นเอง
เราสามารถสร้าง Traffic เข้าสู่เว็บไซต์ หรือธุรกิจออนไลน์ของเรา ได้ 2 วิธีหลัก ๆ ได้แก่ การทำบทความ SEO , การทำโฆษณาผ่าน Adwords เพื่อเพิ่มการเข้าหาเว็บไซต์เรา จาก Google Search Engine
ข้อดีของการทำ Traffic ด้วยบทความ SEO : เป็นช่องทางที่ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่การทำบทความ SEO ไม่ใช้เรื่องง่าย ต้องอาศัยเวลานาน และเทคนิคการเขียนที่ดี ในการใช้คีย์เวิร์ด เข้ามาเป็นตัวช่วยในการเพิ่มอันดับการค้นหา ให้ธุรกิจออนไลน์ของเรา ขึ้นเป็นอันดับต้น ๆ ในหน้าแรกของ Google search แต่ถึงอย่างไร ถ้าเว็บไซต์ของแบรนด์กระเป๋าเราติดอันดับแล้ว ก็ง่ายต่อเพิ่มยอดขายอื่น ๆ ตามมา
ข้อดีของการทำ Traffic ด้วย Google Adwords : เป็นการซื้อโฆษณาให้ เว็บไซต์ของเราอยู่อันต้น ๆ ของ Google search ทันที โดยการ Bid กับคู่แข่งที่ใช้คีย์เวิร์ดเดียวกับเรา แต่ถ้าหากเราใช้ในระยะยาว จะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้น คนที่ใช้ Google Adwords ที่เก่ง มีประสิทธิภาพ ก็ค่อนข้างมีน้อย ทำให้เราอาจจะต้องเสียเงินอีกส่วน เพื่อจ้างกลุ่มคนเหล่านี้เพิ่มด้วย
ขั้นตอนที่ 5 : การเตรียม Content ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
คำว่า content ในที่นี้ หมายรวมตั้งแต่ รูป , วิดีโอ , แคปชั่น , เนื้อหาที่จะนำเสนอ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ จะเป็นตัวตัดสินว่า แบรนด์กระเป๋าของเรามีความน่าสนใจหรือไม่ ? การเรียบเรียบเนื้อหาเป็นเรื่องราว ( Story ) ก็ได้รับความนิยมมาก เพราะเป็นการช่วยเพิ่มความน่าติดตาม ให้กับแบรนด์ หรือสินค้าของเรามากขึ้น
การรีวิวสินค้า ( Review ) จากผู้ใช้จริง เป็นอีกหนึ่งคอนเทนต์ ที่นิยมมากที่สุด เพราะเป็นเครื่องมือช่วยวัด มาตรฐานการบริการและคุณภาพสินค้า ประกอบการตัดสินซื้อของผู้บริโภค ยิ่งเรามีรีวิวสินค้ามากเท่าไหร่ ก็ย่อมทำให้เรามีความน่าเชื่อถือมากเท่านั้น ซึ่งเหล่าบริษัทใหญ่ ๆ อาทิเช่น Airbnb , Lazada , Amazon , Shopee ก็ได้ให้ความสำคัญกับจุดนี้ ทำให้หลายธูรกิจออนไลน์ เติบโตได้ดี บน Matketplace เหล่านี้นั้นเอง
ข้อดี - ข้อเสีย ของการขายของออนไลน์
ข้อดี
- เป็นการลงทุนทำธุรกิจ ใช้เงินน้อย ไม่ต้องมีหน้าร้าน เราสามารถใช้เงินส่วนนี้ ไปต่อยอดทำอย่างอื่นได้
- สามารถดำเนินธุรกิจคนเดียวได้ ด้วยเครื่องมือต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ ที่อำนวยความสะดวก ช่วยให้เราทำธุรกิจออนไลน์ได้ง่ายมากขึ้น
- สะดวกในการหากลุ่มลูกค้า เราสามารถเข้าถึงลูกค้าในวงกว้างได้ ไม่จำเป็น ต้องติดป้ายโฆษณาตามท้องถนน เพียงแต่ใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ก็ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น
- มีความอิสระ หากเรามีหน้าร้าน เราต้องการเปิด - ปิดร้าน ที่ตรงเวลา ต่างจากการขายของออนไลน์ ไม่จำเป็นต้องมีเวลาี่แน่นอน แค่เพียงมีวินัยและกระตือรือร้น ในการตอบคำถาม และจัดส่งสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพก็พอ
ข้อเสีย
- อัตราการแข่งขันสูง เพราะโลกที่เชื่อมต่อได้ง่าย ทำให้ใคร ๆ ก็สามารถมีร้านค้าขายของออนไลน์ได้ ลูกค้าก็จะมีตัวเลือกซื้อค่อนข้างเยอะ หากลูกค้าไม่พอใจในบางจุด อาจทำให้เปลี่ยนไปใช้บริการคู่แข่งได้
- โดนโจมตีได้ง่าย หากลูกค้าไม่พอใจสินค้า หรือบริการ ก็มีสิทธิที่จะประจานหรือแสดงความไม่พอใจ บนโลกออนไลน์ได้ ซึ่งจะส่งผลต่อชื่อเสียงของอบรนด์กระเป๋าผ้าเราได้ง่าย เพราะฉะนั้น ควรต้องระมัดระวัง เรื่องนี้เป็นพิเศษ
- กลุ่มลูกค้าที่ลังเลง่าย เมื่อเรามีคู่แข่งเยอะในตลาดเดียวกัน การจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ สามารถดึงดูดลูกค้าได้ง่าย ลูกค้าจะตัดสินใจเพียงแค่ว่า ร้านค้าไหนให้ประโยชน์ได้สูงสุด
แบรนด์กระเป๋าผ้าของเรา สามารถขายได้ที่ ช่องทางการขายของออนไลน์ ไหนได้บ้าง ?
เป็นช่องทางขายของออนไลน์ ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ พัฒนามาจากสื่อโซเชียลสังคม จนเราสามารถสร้างเพจ หรือร้านค้าออนไลน์ได้ นอกจากนี้ เรายังสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้นด้วย พร้อมกับเครื่องมือในการโปรโมท หรือโฆษณาสินค้า / ร้านค้าของเราได้ด้วย เราสามารถลงโปรโมทได้ทั้งรูป ( อัลบั้มก็ได้ ) , วิดีโอ , รายละเอียดสินค้า ฯลฯ
เน้นการใช้รูป , วิดีโอ สื่อสารแบรนด์หรือสินค้า สำหรับแบรนด์กระเป๋าผ้า ช่องทางนี้ถือว่าสำคัญ เราสามารถทำให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่าย ถึงรายละเอียดสินค้า ผ่านทางรูปและวิดีโอที่ใช้ ซึ่งลูกค้าสวยใหญ่ชอบรูปที่มีความสวยงาม , รายละเอียดภาพชัด รวมถึงการมีวิดีโอสารธิตการใช้สินค้าด้วย
- Line@
มีข้อจำกัดเรื่องของการลงรูป , วีดีโอ , รายละเอียดสินค้า ต่างจาก 2 ช่องทางข้างต้น เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว Line@ เราจะเน้นไปที่การพูดคุย เกี่ยวกับรายละเอียดสินค้า แต่ถึงอย่างไรเราควรมีช่องทางนี้ เพื่อช่วยเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ในกว้างมากขึ้น เพราะคนไทยเล่น Line มากถึง 44 ล้านคนทั่วประเทศ สูงเป็นอันดับ 2 ของโลกเลยทีเดียว
เป็นช่องทางการขายของออนไลน์ ที่ดูเหมือนจะลำบากต่อการโปรโมท เพราะมีข้อจำกัด เรื่องจำนวนตัวอักษรแคปชั่น ที่ใช้ได้เพียง 140 ตัวอักษร และการลงรูป / วิดีโอ / ลิงค์ ก็มีข้อจำกัดเช่นกัน แต่ถึงอย่างไร ช่องทางนี้ กลับได้รับความน่าเชื่อถือ ในการทำรีวิวสินค้า และกระแสสินค้าต่าง ๆ สามารถกระจายเป็ยวงกว้าง ภายในระยะเวลาสั้น ๆ และสามารถค้นหา ความเกี่ยวข้องสินค้าได้จาก Hashtag #
- Application : Shopee , Lazada , Zlingo
ตลาดออนไลน์ ที่เราสามารถสร้างเองได้ และไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม เพิ่มการเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้นด้วยแอพพลิเคชั่น เพราะเราสามารถลงรูป , รายละเอียดสินค้า ( วิดีโอลงได้บางส่วน ) เราต้องทำการศึกษาให้ดี ก่อนนำมาใช้กับแบรนด์กระเป๋าผ้าของเรา
