ตลาดสินค้าของเด็ก เป็นตลาดที่ค่อนข้างท้าทาย สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจใหม่ เนื่องจากเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ค่อนข้างเล็ก มีความพิเศษเฉพาะกลุ่ม และมีรายละเอียดเยอะกว่ากลุ่มอื่น คำว่า “ เด็ก ” เริ่มตั้งแต่อายุ 0 - 12 ปี ในแต่ละช่วงวัย มีความต้องการที่แตกต่างกัน และมีปัจจัยหลายอย่าง และมีปัจจัยหลายอย่าง ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ
อาทิเช่น การออกแบบกระเป๋าผ้านักเรียน , คนในครอบครัวหรือคนรอบข้าง เป็นต้น
สังเกตได้จาก ในช่วงต้อนรับเปิดเทอม สินค้าสำหรับเด็ก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การเรียน , เสื้อผ้า , และกระเป๋านักเรียน ฯลฯ หลายแบรนด์ผลิตสินค้าออกมา เพื่อเอาใจน้อง ๆ นักเรียน ด้วยลวดลาย , รูปแบบสินค้าที่น่ารัก ทันสมัย ในการตัดสินใจซื้อสินค้านี้ มักจะเริ่มต้น จากความชอบของเด็ก แต่คนที่ตัดสินใจซื้อมาจากคนในครอบครัว จึงทำให้การตลาด และกลยุทธ์การออกแบบสินค้าสำหรับเด็กนักเรียน ไม่เหมือนกับการตลาดทั่วไป อีกทั้งการตลาดในยุคออนไลน์ ได้เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้า ของเหล่าคุณแม่และน้อง ๆ ต่างไปจากเดิม ไปดูกันว่า คนรอบข้าง ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของเด็ก มีใครบ้าง ? และมีอิทธิพลด้านไหนบ้าง ?
เริ่มต้นจาก Momketing การตลาดแบบฉบับของคุณแม่ ในปี 2019
คนในครอบครัว ที่มีอิทธิพลต่อการซื้อสินค้าของเด็ก ที่สำคัญที่สุดคือ แม่ ด้วยความใกล้ชิด สนิทสนมมากกว่าคนอื่น จึงทำให้เกิดเป็น แนวคิดการตลาดเพื่อคุณแม่ Momketing แนวคิดนี้ มีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ เหมือนเทรนด์การตลาดทั่วไป โดยเราจะแบ่งคุณแม่ออกเป็น 3 ประเภท ตามพฤติกรรมและช่วงอายุของลูก ๆ ดังนี้
- คุณแม่ตั้งครรภ์ : เป็นกลุ่มคนที่มีความใส่ใจ ในการเลือกซื้อสินค้ามากเป็นพิเศษ มีความอยากรู้อยากเห็น เน้นการเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อการเลี้ยงดูลูกในอนาคต เป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการดูรีวิวสินค้า เพื่อประกอบการตัดสินใจ รวมถึงการให้ข้อมูลสินค้า อย่างละเอียด เช่น วิธีการใช้งาน , รางวัลหรือมาตรฐานการผลิต , วัสดุหรือส่วนผสม เป็นต้น
- คุณแม่ลูกอ่อน : เป็นคุณแม่ที่มีลูกเล็ก วัยตั้งแต่ 0 - 3 ปี โดยส่วนใหญ่แล้ว ช่วงอายถของลูกตอนนี้สำคัญมาก เพราะเป็นช่วงของการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวของลูก เวลาจึงเป็นสิ่งที่แม่ให้ความสำคัญ สินค้าหรือสิ่งของ ที่ผลิตสำหรับแม่และเด็ก ต้องมีความสะดวกสบาย ใช้งานได้ง่าย รวมถึงขั้นตอนการหาซื้อได้ง่ายด้วย ยิ่งเป็นร้านค้าที่สามารถซื้อออนไลน์ และสั่งซื้อครั้งเดียว ก็สามารถได้สินค้าครบแล้ว ก็ยิ่งตอบโจทย์คุณแม่กลุ่มนี้มาก
- คุณแม่ลูกโต : ลูกจะมีอายุ ระหว่าง 3 - 6 ปี เป็นวัยที่เริ่มเข้าสู่สังคมอื่น คือ สังคมโรงเรียน เป็นช่วงของการเปิดโลกกว้างให้เด็ก คุณแม่จึงให้ความสำคัญ กับการเรียนรู้ของลูก ว่าลูกค้ามีความชื่นชอบอะไร มีการสอบถามความคิดเห็นของลูก ก่อนการตัดสินใจซื้อ และมักจะเน้นใช้สินค้าที่มีคุณภาพ เพื่ออนาคตของลูก
อีกสิ่งหนึ่ง สำหรับกลุ่มคุณแม่ที่ควรคำนึงถึง คือ พฤติกรรมการเสพสื่อของคุณแม่ และปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกซื้อสินค้า ในปี 2019
สำหรับปี 2019 เป็นการเสพสื่อแบบผสมผสาน ทั้งบนโลกออนไลน์ ( Online ) และออฟไลน์ ( Physical ) ซึ่งคุณแม่ในแต่ละกลุ่ม มีปริมาณการเสพสื่อที่ต่างกัน แต่จะเน้นไปที่ สื่อออนไลน์มากกว่าออฟไลน์ ในส่วนของปัจจัย ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า ให้กับลูก ๆ มากที่สุด 4 อันดับ ได้แก่ ภาพลักษณ์และตราสินค้า , ความหลากหลายของสินค้าและบริการ , แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และราคาสินค้า ตามลำดับ และสำหรับกลุ่มคุณแม่ ที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ของกระเป๋าผ้านักเรียนมากที่สุด คือ กลุ่มคนแม่ลูกโต เพราะต้องเลือกสรรสิ่งของที่จำเป็น ที่มีคุณภาพเพื่ออนาคตของลูก ๆ
เมื่อวิเคราะห์พฤติกรรม ในการเลือกซื้อกระเป๋าผ้านักเรียน ของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษา อายุระหว่าง 6 - 13 ปี พบว่า บุคคลที่มีอิทธิพล ต่อการตัดสินใจซื้อมากที่สุด คือ พ่อแม่ ในส่วนของปัจจัยเกี่ยวกับ การผลิตกระเป๋าผ้านักเรียน อาทิเช่น ด้านประโยชน์ , ด้านคุณภาพ , ด้านการออกแบบกระเป๋าผ้า , ด้านราคา เป็นต้น เด็ก ๆ ให้ความสำคัญ ในด้านการออกแบบกระเป๋าผ้ามากที่สุด รองลงมา ได้แก่ ด้านราคา , ด้านคุณภาพ และด้านประโยชน์ของกระเป๋าเป้นักเรียน ตามลำดับ ซึ่งในส่วนของประโยชน์การใช้งาน และคุณภาพของกระเป๋าผ้านักเรียน ต้องมีการอธิบายเพิ่มเติม เพื่อให้เด็ก ๆ เข้าใจว่า ทำไมต้องเลือกกระเป๋าผ้าแบบนี้ เช่น ความแข็งแรง ความทนทาน และอายุการใช้งาน เป็นต้น และในด้านของราคา เด็ก ๆ มีความเห็นด้วยมาก มีการประเมินความคุ้มค่า เมื่อเทียบกับราคาของกระเป๋าผ้านักเรียน
สรุปได้ว่า พฤติกรรมการซื้อสินค้าของทั้งคุณแม่ลูกโต และลูก ๆ วัยประถมศึกษา มีความสอดคล้องกัน คือ ฝั่งของลูก จะเป็นคนเลือกกระเป๋าผ้านักเรียนเอง ตามความชอบของตน และตามกระแสในขณะนั้น และผู้ปกครอง / พ่อแม่ จะเป็นผู้พิจารณาในส่วนของ ประโยชน์การใช้งาน , คุณภาพ , และราคาของกระเป๋าเป้นักเรียน เพราะฉะนั้น เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้ง 2 ฝั่ง การวางกลยุทธ์การออกแบบกระเป๋าผ้า เป็นสิ่งที่สำคัญมาก และทำได้ไม่ยาก ดังนี้
- สีต้องใช่ ใช้ยังไงก็โดน : ลองจินตนาการง่าย ๆ เมื่อเราเป็นเด็ก สีที่เด็กผู้หญิงชื่นชอบ จะเป็นสีชมพูโทนสดใส ถ้าเด็กผู้ชาย อาจจะนิยมเป็นสีฟ้า และหลายแบรนด์อย่าง Disneys หรืออย่างการ์ตูน Ben 10 ก็นิยมใช้เป็นสีเขียว ตัดสีดำ ซึ่งเป็นโทนสี ที่ตัดกันชัดเจน ถือเป็นการใช้สีเป็นตัวผลักดันงานออกแบบ ให้ดูสดใส ดึงดูดให้น่าสนใจ ยังมีสีอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยม เช่น เหลือง , สีน้ำเงิน , สีแดง , สีม่วง ฯลฯ หากน้อง ๆ ชื่นชอบสีกระเป๋าของแบรนด์คุณแล้ว รับรอง เหล่าคุณแม่ต้องใจอ่อน ยอมสละเงินในกระเป๋าจับจองกระเป๋าผ้าของคุณ อย่างแน่นอน
- การเลือกแบบกระเป๋าผ้า : สิ่งสำคัญ ที่ควรนึงถึงกระเป๋าผ้า สำหรับเด็กนักเรียน คือ ความคงทน เพราะถึงแม้ว่า น้องหนูทั้งหลาย จะไม่ได้ตัวใหญ่ เหมือนผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ แต่หนังสือแต่ละเล่ม ที่ต้องแบกไปเรียน ก็ถือว่า หนักเอาการเลยทีเดียว กระเป๋าผ้าที่นิยม สำหรับทำกระเป๋าผ้านักเรียนมีหลายรูปแบบด้วยกัน ขึ้นอยู่กับการเลือกไปใช้งาน
ถ้าเน้นเป็นกระเป๋าผ้าสำหรับใช้ไปโรงเรียน ก็ควรเป็นกระเป๋าซิปผ้าหนา ๆ ที่มีช่องเยอะ อย่างเช่น กระเป๋าสะพายหลังไปโรงเรียน ทำจากผ้าแคนวาส , กระเป๋าล้อลาก ก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน เพราะโรงเรียนต่าง ๆ มักจะสั่งผลิตเป็นกระเป๋าโรงเรียน แจกให้นักเรียนได้ใช้ หรือจะเป็นกระเป๋าผ้าหูรูด ใส่สิ่งของสำหรับการกีฬา เช่น รองเท้าพละ , ชุดว่ายน้ำ , ชุดเทควันโด ฯล - การออกแบบงานพิมพ์ บนกระเป๋าผ้านักเรียน : สำหรับลวดลายกระเป๋า เด็ก ๆ มักจะเลือกจากความชื่นชอบส่วนตัว โดยมีแหล่งอ้างอิงมาจากการ์ตูนที่ชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็น Barbies , Kitty , Disneys , Spiderman ฯลฯ จะมีการเลือก Font น่ารัก ๆ / ลายพิมพ์การ์ตูนใหญ่ ๆ รายละเอียดไม่มาก แต่มองเห็นได้จากที่ไกล ๆ แล้วดูเด่น อาจจะมีการเพิ่มลูกเล่น ด้วยลายพิมพ์นูนด้วยพลาสติก รูปการ์ตูน
- ขนาดของกระเป๋านักเรียน : ให้เจาะจงในกลุ่มเด็กที่ใช้งานกระเป๋าผ้า ถ้าน้องหนูเป็นกลุ่มประถมต้น ตัวก็จะไม่ใหญ่มาก ดังนั้น กระเป๋าผ้าจะต่องย่อส่วน เพื่อให้น้อง ๆ ใช้งานได้สะดวกด้วย ไม่ดูใหญ่กว่าตัว หรือน้ำหนักเยอะเกินไป สำหรับขนาดกระเป๋าผ้า ไม่ควรเกินกว่าขนาด A4 หรือให้ใส่สมุดหรือหนังสือได้พอดี
- ศึกษาดีไซน์หรืองานออกแบบ ของกระเป๋าผ้านักเรียน ที่คู่แข่งออกแบบ : ในระดับเดียวกับเรา แล้ว พิจารณากับงานที่เราออกแบบ วิธีการง่าย ๆ คือ ออกไปสำรวจตลาดจริง ลองไปเดินห้างสรรพสินค้าเพื่อหาไอเดียใหม่ ศึกษาจากนิตยสารที่ทางแบรนด์คู่แข่งใช้ ในการออกแบบของกระเป๋าผ้านักเรียนพรีเมี่ยม นำไปประยุกต์ใช้ เพราะรู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
ไอเดีย สำหรับ 5 กลยุทธ์ ในการออกแบบกระเป๋าผ้านักเรียน อาจจะยังไม่เพียงพอ ต่อการทำการตลาดในยุคปัจจุบัน อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า พ่อแม่ และผู้ปกครองมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ และส่วนมากแล้ว พฤติกรรมการซื้อสินค้า มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก มีแนวโน้มไปทางออนไลน์มากกว่าทางออฟไลน์ หรือฝั่งร้านค้า เพราะฉะนั้น การทำธุรกิจแบรนด์กระเป๋าผ้า สำหรับเด็กนักเรียน ไม่ควรมองข้ามเรื่องการทำธุรกิจออนไลน์ ( Digital Marketing ) เทรนด์ในการทำการตลาดกระเป๋าผ้านักเรียน สำหรับในปี 2019 นี้ คือ เน้นการสร้างภาพลักษณ์สินค้า ( รูปภาพ , วิดีโอ , รายละเอียดสินค้า ) , การเลือกใช้วัสดุ ที่มีความละเอียดอ่อน , การสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า หรือแบรนด์กระเป๋า เป็นต้น
ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เทคนิคการทำการตลาด สำหรับแบรนด์กระเป๋าผ้านักเรียน อย่างไร? ให้ประสบผลสำเร็จ
- เนื้อหา ต้องสื่อสารอย่างตรงจุด :
เริ่มต้นด้วยให้ข้อมูลกระเป๋าผ้า อย่างลละเอียด การใช้คำในการสื่อสาร หรือถาม - ตอบลูกค้า ควรมีความเป็นกันเอง สร้างความเพลิดเพลินในการอ่าน ทั้งนี้พร้อมด้วยการใช้รูป หรือวิดีโอนำเสนอผลิตภัณฑ์ ที่มีความละเอียดสูง เพื่อเอื้อประโยชน์ในการซื้อสินค้า ผ่านช่องทางออนไลน์ ลูกค้าสามารถเห็นความละเอียดของขนาด , เนื้อผ้ากระเป๋า , การออกแบบได้อย่างชัดเจน เพื่อประกอบการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
การใช้ช่วงอายุของเด็ก ก็เป็นสิ่งสำคัญในการสื่อสาร เช่น เด็กประถมต้น อาจจะนิยมใช้กระเป๋าลายการ์ตูนที่ตนเองชื่นชอบ ต่างจากเด็กประถมปลาย ที่มักจะนิยมใช้กระเป๋าโรงเรียน เป็นต้น
- กระตุ้นให้พ่อแม่ และผู้ปกครองเห็นความสำคัญของสินค้า :
อาจจะเน้นไปทางคุณภาพสินค้า และวิธีการใช้งานที่เป็นประโยชน์ ต่อลูก ๆ เช่น กระเป๋าผ้าที่มีน้ำหนักเบา , รองรับน้ำหนักได้ดี , ทำความสะอาดรอบเปื้อนได้ง่าย , มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เป็นต้น - การสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า :
เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับลูกค้า เพราะทำให้เราสามารถเก็บเป็นข้อมูล ในการทำการตลาดได้ ในอนาคต นอกจากนี้ เราอาจจะได้ลูกค้าใหม่จากการบอกต่อของลูกค้าเก่าก็เป็นได้
- Influencer มีส่วนในการซื้อสินค้า :
สำหรับคุณพ่อ คุณแม่ยุคใหม่ มักจะเสพติดการรีวิวสินค้า เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพสำหรับลูก ๆ ของเรา ดารานักแสดง ที่มีลูกวัยเดียวกันกับเรา ก็จะเป็นตัวช่วยกระตุ้นที่ดี ในการตัดสินใจซื้อสินค้า Influencer ที่ได้รับความนิยมในขณะนี้ ได้แก่ คุณโอปอล์-ปาณิสรา , คุณชมพู่-อารยา , คุณนานา ไรบีนา ฯลฯ
- สินค้าราคาจับต้องได้ :
เนื่องจาก เด็กมีการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนกระเป๋าผ้านักเรียนบ่อย เพราะฉะนั้นการตั้งราคาที่สูงเกินไป ไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก ควรตั้งราคาให้เหมาะสมกับวัสดุที่นำมาผลิตกระเป๋าผ้า รวมถึงการเลือกโรงการผลิตกระเป๋าผ้า ก็มีผลต่อต้นทุนสินค้า ( ติดตามเพิ่มเติม : รู้ได้อย่างไร ? ว่า ควรเลือกโรงงานผลิตกระเป๋าผ้าแบบไหน มาผลิตกระเป๋าผ้าให้คุณ )
- การจัดโปรโมชั่น หรือออกบูธตามเทศกาล ช่วยเพิ่มยอดขาย :
เป็นการดึงลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามาได้ดี สำหรับธุรกิจกระเป๋าผ้านักเรียน มักจะได้กำไรมากสุด คือช่วงก่อนเปิดเทอม ที่บรรดาพ่อแม่ ผู้ปกครองต่างพากันมาจับจ่ายใช้สอย อุปกรณ์การเรียนเพื่อลูกหลาน โปรโมรชั่นจะเป็นตัวช่วยดึงลูกค้าเข้ามาได้ง่ายขึ้น หรือการเป็นพาร์ทเนอร์กับโรงเรียนต่าง ๆ ในการนำกระเป๋าไปจัดจำหน่ายภายในโรงเรียน เช่น วันรับหนังสือเรียน เป็นต้น
การวางแผนกลยุทธ์การออกแบบกระเป๋าผ้าที่ดี ร่วมกับการทำการตลาดที่รัดกุม เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ เป็นการผสมผสานที่ดี ช่วยสร้างให้แบรนด์กระเป๋าผ้า มีความแข็งแกร่งมากขึ้น สวนทางกับในยุคที่เศรษฐกิจไม่ดี และคู่แข่งสูง แบรนด์กระเป๋าของเราก็ยังสามารถเติบโตได้ อย่างมั่นคง
ใครที่สนใจ ต้องการที่มีแบรนด์กระเป๋าผ้า เป็นของตนเอง สามารถรับคำปรึกษา หรือสามารถสั่งผลิตได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 088-653-2999
LINE : @designguru
EMAIL : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
WEBSITE : www.thaidesignguru.com