หลายคนที่กำลังลงมือ ทำธุรกิจเกี่ยวกับกระเป๋าผ้า คงต้องทำการศึกษาให้ดี เพราะตอนนี้โลกของเราก้าวเข้าสู่ การตลาดยุค 5.0 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับรูปแบบการตลาดแบบเดิม รวมถึงการตลาดแบบ 4.0 อาจจะใช้ไม่ได้ผล เพราะเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภค มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด
เพราะฉะนั้น เจ้าของธุรกิจแบรนด์กระเป๋าผ้า รวมถึงแบรนด์อื่น ๆ ต้องมีการปรับตัวให้ทัน ไปดูกันว่า การตลาดในยุค 5.0 เปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน และเราต้องปรับตัวอย่างไรบ้าง ? ก่อนอื่นสำหรับใคร ที่เพิ่งเข้ามาเริ่มธุรกิจออนไลน์ เกี่ยวกับแบรนด์กระเป๋าผ้า ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ทำไม เราถึงต้องทำการตลาด ? การตลาด มีบทบาทต่อแบรนด์กระเป๋าผ้าอย่างไรบ้าง ?
ขอสรุปสั้น ๆ ก่อนว่า “ การตลาด คือ การทำกิจกรรมใด ๆ เพื่อให้เกิดการนำสินค้าหรือบริการ ทำให้ผู้บริโภคเกิดความพึงพอใจ และขณะเดียวกัน ธุรกินเองก็บรรลุวัตถุประสงค์ในการทำธุรกิจ เช่น รายได้ , ชื่อเสียง , ความน่าเชื่อ และกำไร ”
ก่อนการเริ่มทำธุรกิจ ตราบใดที่เราทำการวิเคราะห์ วางแผนทางการตลาด รวมถึงการตั้งเป้าหมายธุรกิจไว้ดีแล้ว ย่อมส่งผลให้แบรนด์กระเป๋าผ้าของเรา บรรลุถึงจุดประสงค์ของธุรกิจ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า แบรนด์กระเป๋าผ้าจะได้กำไร ได้ง่ายขึ้น นั่นเอง
( ติดตามเพิ่มเติม : 5 วิธี การสร้างแบรนด์กระเป๋าผ้าของตัวเอง ให้ปังค์! )
การตลาดในยุค 5.0 คืออะไร ? มีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน ?
ในยุคการตลาด 4.0 ( Marketing 4.0 ) อย่างที่ทราบกันดีว่า เป็นการตลาด ที่เน้นการใช้สื่อดิจิตอล เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ให้ได้มากที่สุด แต่สำหรับการตลาดยุค 5.0 ( Marketing 5.0 ) เป็นการตลาดที่ เน้นการเข้าถึงประสบกรณ์ของลูกค้า และการเก็บรวบรวมข้อมูล ( Data ) เพื่อนำมาใช้ประโยชน์มากที่สุด จึงเกิดเป็น แนวคิดการตลาดในยุค 5.0 ที่เข้ามาทดแทนการตลาดแบบเดิม ๆ พร้อมสร้างแพลตฟอร์มทางธุรกิจ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายตรงจุด สร้างความสะดวกสบาย และสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นด้วย
หัวใจสำคัญของการตลาด 5.0 คือ Omni - Channel
ในปัจจุบัน ช่องทางการตลาดได้มีการพัฒนามากขึ้น จากเดิมที่เราเน้นเฉพาะหน้าร้าน ( Offline ) และตอนนี้เราก็ยังนิยม ช่องทางการตลาดแบบออนไลน์ ( Online ) ด้วย ( ติดตามเพิ่มเติม : เคล็ดลับ : กระเป๋าผ้า กับช่องทางการขายของออนไลน์ ปี 2019 ) ซึ่งสำหรับยุค 5.0 อาจจะยังไม่เพียงพอ จึงทำให้เกิด Omni - Channel ที่เป็นการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า ผ่านช่องทางที่หลากหลาย โดยเราจะรวมทั้ง 2 ช่องทางไว้ด้วยกัน ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ซึ่งเป็นการผสมผสานที่ทำให้เรา ได้กลุ่มค้าเป้าหมายตรงกับแบรนด์มากที่สุด เน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดี ให้กับผู้บริโภค โดยมีช่องทางที่สำคัญโดยทาง thaidotcompayment กล่าวไว้ดังนี้
- E - mail Direct Marketing
เป็นช่องทางที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ได้เฉพาะกลุ่มที่สุด สามารถสังเกตได้ว่า หลาย ๆ แบรนด์ต้องการให้ลูกค้ากรอกอีเมล์เพิ่มเติม เช่น การสมัครสมาชิกของแบรนด์ เป็นต้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้าง Content หรืออัพเดท Promotion ได้ตรงใจลูกค้ามากที่สุด
- การทำ CRM บนเว็บไซต์
การทำเว็บไซต์ เป็นช่องทางที่สร้างความน่าเชื่อถือ ให้กับแบรนด์กระเป๋าผ้าเราอย่างมาก เมื่อเทียบกับช่องทางออนไลน์อื่น ๆ เราจึงควรมีเว็บไซต์สำหรับแบรนด์กระเป๋าเรา เพื่อสร้างความเชื่อใจให้กับลูกค้า - Social Media
- ช่องทางการขายของออนไลน์นี้ เป็นที่นิยมและมาแรง ถึงแม้ว่า จะมีการปรับเปลี่ยนแพลตฟอร์มอยู่เรื่อย ๆ แต่ก็เป็นช่องทางที่ทำให้เรา ใกล้ชิดกับลูกค้าได้มากที่สุด แต่การทำ content แบบหว่านแห เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เราควรหันมาใช้สื่อ / ช่องทางที่เหมาะสม กับกลุ่มลูกค้าของเรา และสร้าง content เพื่อสื่อสารให้ตรงจุดมากที่สุด
- Mobile Media
จากงานวิจัย พบว่าเรานิยมใช้มือถือ มากกว่าเครื่องมือสื่อสารชนิดอื่น การที่แบรนด์ของเราสร้าง Application เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้า ก็ถือเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะแบรนด์กระเป๋าผ้า หากคุณสามารถสร้างแอพลิเคชั่น เพื่อให้ลูกค้าสามารถช้อปปิ้งออนไลน์ได้ 24 ชม. นอกจาก จะสร้างความสะดวกสบาย ให้กับลูกค้าแล้ว ยังทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลา ในการตอบคำถาม และเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดี ให้กับลูกค้าอีกด้วย - Real - Time Media
การ Live ก็คงยังได้ผลอยู่ สำหรับการตลาดในยุคนี้ ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นเฉพาะช่องข่าว หรือช่องทีวีดิจิตอลเท่านั้น แบรนด์สินค้าทั่วไปก็สามารถทำได้ เพราะสามารถโต้ตอบลูกค้าได้โดยตรง รวมถึงการนำเสนอ รายละเอียดของกระเป๋าผ้าได้ด้วย - Programmatic Display
การโฆษณาบนพื้นที่สื่อเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น Google Display Network , Google Ads และ Facebook Ads เป็นการสร้างตัวตนของแบรนด์กระเป๋าผ้าเรา ให้ทุกคนรู้จัก จากการค้นหาในโลกออนไลน์
กลยุทธ์การตลาดในยุค 5.0 ที่ธุรกิจออนไลน์ควรรู้
- Conversion สำคัญที่สุด
ในยุค 4.0 คงได้ยินว่า Content is King แต่การทำ content ในปัจจุบัน ควรตั้งเป้าหมายว่า เราจะทำ content เนื้อหาดี ๆ ไปเพื่ออะไร ? เมื่อส่งถึงกลุ่มเป้าหมายแล้ว สามารถสร้างให้กลายเป็น ลูกค้าของแบรนด์กระเป๋าเราได้หรือไม่ ? เพราะฉะนั้น การสร้าง content เพื่อให้ได้มาซึ่ง Conversion จึงเป็นเรื่องสำคัญในยุค 5.0 นี้
- สร้างประสบการณ์ที่ดี มีคุณค่ากว่าคุณภาพสินค้า และราคา
เราเคยชิน กับการสร้างโปรโมชั่น การตั้งราคาแข่งกัน มาพอสมควรแล้ว แต่ประสบการณ์ของลูกค้าสำคัญกว่า เพื่อการประสบความสำเร็จ ทางธุรกิจในอนาคต ควรพัฒนาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กระเป๋าผ้ากับลูกค้า ให้มีความเหนียวแน่น เราสามารถเริ่มได้ง่าย ๆ คือ การเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างเป็นระบบ , วิเคราะห์ข้อมูล จนเข้าใจความต้องการของลูกค้า เป็นต้น จากนั้น เราสามารถสร้างระบบ Loyalty Program ขึ้น เพื่อช่วยสร้างรากฐานธุรกิจ ให้มีความแข็งแรง และยังสามารถรักษาลูกค้าได้ด้วย เช่น ระบบสมาชิกของแบรนด์กระเป๋า , บัตรสะสมแต้ม ฯลฯ
- ข้อมูล คือกุญแจของการตลาดยุค 5.0
การจะได้มาซึ่งข้อมูล เราต้องทำการความเข้าใจพฤติกรรม และวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า เสียก่อน ซึ่งเป็นหนทางสร้างความสำเร็จในขั้นแรก ยิ่งเรามีข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า มากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เราวางแผนการตลาดใน step ต่อไปได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น
โดยเฉพาะแบรนด์กระเป๋าผ้าใหม่ ที่นอกจากเรียนรู้การตลาดแล้ว ต้องทำการศึกษาเครื่องมือ ที่ช่วยในการสื่อสารแบรนด์กระเป๋าผ้า เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย รู้จักแบรนด์กระเป๋าเรามากขึ้น ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “ การสื่อสารการตลาด ( Marketing Communication ) ”
การสื่อสารการตลาด ( Marketing Communication ) คือ การนำการสื่อสาร มารวมกับการตลาด ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการตลาด ให้ลูกค้ารับรู้ เข้าใจในแบรนด์ของเรา เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ตรงตามที่เจ้าของแบรนด์ ต้องการมากที่สุด เมื่อเราได้ข้อมูลลูกค้าแบรนด์กระเป๋าผ้า จากการวิเคราะห์การตลาดมาแล้ว สิ่งที่เราต้องทำคือ
การวางแผนการสื่อสารการตลาด สำหรับแบรนด์กระเป๋าผ้า วิธีการสื่อการที่นิยมใช้มากที่สุด ได้แก่
- การโฆษณา ( Advertising )
เราสามารถทำได้หลายช่องทาง จากที่กล่าวไปข้างต้น ได้แก่ การทำการโฆษณาผ่าน Google Ads , Facebook Ads ฯลฯ ซึ่งต้องทำการศึกษาก่อนว่า ลูกค้าเป้าหมายของแบรนด์กระเป๋าเรา นิยมใช้ Social Media อะไรบ้าง ? เพื่อที่เราจะได้เจาะจง ลง content ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า และยังช่วยให้เรา ประหยัดงบประมาณการโฆษณา ได้อย่างคุ้มค่าอีกด้วย
- การขายโดยใช้พนักงาน ( Personal Selling )
สำหรับการตลาดยุค 5.0 การทำการตลาดออฟไลน์ เช่น การมีหน้าร้าน , หรือติดต่อกับร้านรวมแบรนด์สินค้า Multibrand ก็เป็นสิ่งสำคัญ พนักงานควรมีความรู้ ในการให้ข้อมูลกระเป๋าผ้า ได้อย่างถูกต้อง ทั้งวิธีการใช้ , การออกแบบกระเป๋า , ราคา และข้อมูลเกี่ยวกับกระเป๋าผ้า ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการเทรนด์พนักงานของแต่ละแบรนด์กระเป๋า และการสร้างความเข้าใจแบรนด์ที่ดี ให้กับพนักงานขายด้วย
- การส่งเสริมการขาย ( Sale Promotion )
เป็นการกระตุ้นยอดขายที่ดี ให้กับแบรนดด์กระเป๋า ทั้งนี้การส่งเสริมการขาย เราสามารถทำได้หลายอย่าง เช่น การจัดทำโปรโมชั่น , การทำโปสเตอร์ , แจกใบปลิว ฯลฯ วิธีการนี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มลูกค้าใหม่แล้ว ยังสามารถช่วยรักษาลูกค้าเก่า ของแบรนด์กระเป๋าผ้าเราได้ด้วย
- การให้ข่าวและการประชาสัมพันธ์ ( Public Relation )
เป็นการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์กระเป๋าผ้าให้ดี สร้างคุณค่าให้ลูกค้าเห็นว่า แบรนด์ของเรามีจุดเด่นอย่างไร ? เช่น การให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้า , การประชาสัมพันธ์ สินค้าที่กำลังจะวางขาย เป็นต้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่า เรามีกลุ่มเป้าหมายเป็นใคร ? เพื่อที่เราจะได้สร้าง Content ให้มีคุณภาพและให้ลูกค้า ติดตามแบรนด์เราตลอดไป
กรณีศึกษา ตัวอย่างของแบรนด์กระเป๋าผ้า ที่ใคร ๆ ก็รู้จักอย่างเช่น Anello
เรารู้จักกันดีว่า แบรนด์กระเป๋านี้มาจากประเทศญี่ปุ่น เดิมทีเราต้องสั่งพรีออเดอร์ หรือฝากซื้อกันจากประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคของแบรนด์ Anello ก็สำคัญ พบว่า Concept ของแบรนด์ที่อยากให้ใช้กระเป๋าได้ทุกเพศทุกวัย รวมถึงดีไซน์ที่โดดเด่น ตรงกับจริตคนไทย เป็นกระเป๋าที่ใช้งานง่าย พร้อมกับคุณภาพของกระเป๋า ที่เอาใจคนไทยและนานาประเทศอีกด้วย
การสร้างแบรนด์กระเป๋าไม่ใช่เรื่องยาก ในการสร้างแบรนด์กระเป๋า นอกจากวางแผนการตลาดให้ก้าวทันยุคสมัยแล้ว การศึกษาถึงตลาดคู่แข่งก็สำคัญ เพื่อที่จะทำให้เราสร้างความโดดเด่น ความแตกต่าง และน่าประทับใจในแบรนด์กระเป๋าผ้าเราได้
ทางเราพร้อมที่จะให้บริการ ออกแบบ และให้คำปรึกษา ในเรื่องการผลิตกระเป๋าผ้า ทุกชนิด
ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย มีสีให้เลือกมากกว่า 15 สี
ผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อเข้ามาได้ ผ่านทาง
Facebook : Thai design guru
Line : @designguru
Tel : 088 - 653 - 2999