ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนว่า การลดใช้ถุงพลาสติก เป็นการกลยุทธ์ที่หลายหน่วยงานรณรงค์กันอย่างจริงจัง กลยุทธ์การตลาดเพื่อเสริมสร้างให้องค์กร หรือธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ไม่ได้มีเพียงแค่การทำโปรโมชั่น หรือการโฆษณาเพื่อเพิ่มจำนวนผู้บริโภค หรือแม้แต่การประชาสัมพันธ์
และสำหรับหน่วยงานไหนที่เริ่มต้นประชาสัมพันธ์ประกาศว่าตัวเองเป็นหน่วงงานสีเขียวก็ได้รับการจับตามองมากขึ้น โดยห้างร้านชื่อดังอย่าง โรบินสัน , เครื่อเซ็นทรัล ก็สนับสนุนการใช้ถุงผ้า กระเป๋าผ้า แทนการใช้ถุงพลาสติกเพราะมีย่อยสลายยาก ถึงแม้ว่าในด้านประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร ก็ไม่ได้ช่วยสร้างความแข็งแกร่ง แต่ก็ให้ภาพลักษณ์ที่ดีกับองค์กรได้ในระยะยาว สิ่งที่จะต้องยังคงอยู่เพื่อคนรุ่นหลัง คือ ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
ทางโรงงานผลิตกระเป๋าผ้า อย่าง Thaidesignguru.com เองก็มีเจนตาการทำธุรกิจผลิตกระเป๋าผ้า หรือรับทำกระเป๋าผ้า พรีเมียม พิมพ์แบรนด์ ให้กับองค์กรต่างๆ ก็เพื่อมีวัตถุประสงค์ อย่างให้ทุกหน่วยงานช่วยกันรณรงค์การลดการใช้พลาสติก แล้วกลับมาใช้กระเป๋าผ้า หรือถุงผ้า ซึ่งข้อดีของถุงผ้า หรือกระเป๋าผ้า ไม่เป็นเพียงแต่อุปกรณ์ใช้ของพกพาในชีวิตประจำวันเท่านั้น สิ่งที่โรงงานผลิตกระเป๋าผ้าอยากเน้นย้ำในส่วนของ ภาคหน่วยงานที่จะเกิดประโยชน์อย่างมากกับการทำการตลาด คือ กระเป๋าผ้า ถุงผ้า เป็นเสมือนแฟชั่นที่เข้าถึงกลุ่มคนได้หลากหลาย และการสั่งผลิตถุงผ้า กระเป๋าผ้า สกรีนโลโก้ เพื่อแจกประชาสัมพันธ์ก็ถือว่าเป็นสื่อทางการตลาดที่ดีเยี่ยม และเป็นพื้นที่โฆษณาต้นทุนต่ำ
อย่างไรก็ตามด้านสิ่งแวดล้อมทาง โรงงานผลิตกระเป๋าผ้า มีแนวคิดที่สังเกตได้จาก การที่พลังงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน น้ำ ไฟฟ้า มีราคาแพงขึ้น เพราะอัตราการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรม แบบก้าวกระโดด ทำให้ปริมาณการใช้ทรัพยากรมีเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย แต่ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม กลับลดลงอย่างน่าใจหาย ทำให้นักสิ่งแวดล้อมหลายคน ออกมาย้ำเตือนถึงสัญญาณความเสี่ยงนี้ จากแคมเปญการรณรงค์ เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และสร้างความตระหนักให้กับประชาชน จนถึงระดับองค์กรใหญ่ จึงเกิดเป็น แนวคิดการตลาดเพื่อสิ่งแวดล้อม ( Green Marketing ) และพวงติดกับ แนวคิด CSR ( Corporate Social Responsibility ) การทำการตลาดเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ที่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรอย่างมาก
เช่น บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ พัฒนารถยนต์ Hybrid เพื่อช่วยลดมลพิษทางอากาศ , บริษัทผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศ เปลี่ยนสารให้ความเย็นจาก CFC เป็น HFC ตามข้อกฏหมาย เป็นต้น โดยการตลาดเพื่อสิ่งแวดล้อม ( Green Marketing ) ไม่ได้หมายรวมเฉพาะสิ่งแวดล้อม แต่รวมไปถึงสังคมและความเป็นอยู่ของผู้คนด้วย สามารถแบ่งออกเป็น 2 แนวทางหลัก ดังนี้
- การตลาดเชิงจริยธรรม : เป็นการทำการตลาดที่ไม่อารัดเอาเปรียบใคร ทั้งผู้บริโภคและบริษัทคู้ค้า มีความเป็นธรรม ( Fair Trade ) เช่น แบรนด์กาแฟชื่อดัง รับซื้อเมล็ดกาแฟของเกษตรกรในพื้นที่ ด้วยราคาที่เป็นธรรม ฯลฯ
- การตลาดเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม : ซึ่งมีด้วยกันหลากหลายวิธี สามารถเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยตัวเองหรือในระดับองค์กร เช่น การใช้ถุงผ้าลดโลกร้อน ซึ่งจริงๆแล้ว รูปแบบถุงผ้า หรือกระเป๋าผ้ารักษ์โลกก็ไม่ได้มีเพียงแต่ กระเป๋าผ้าสะพายย่าม สีขาวพิมพ์ลายเชยๆ โดยหน่วยงานและองค์กรให้นักออกแบบรุ่นใหม่ที่ทำกระเป๋าผ้ารักษ์ให้ดูสวย แปลกตา แต่ใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็น ทรงกระเป๋าผ้าร่มสะพายข้างพับได้ หรือผลิตเป็นกระเป๋าเป้หูรูด นอกจากการรณรงค์การใช้ถุงผ้า กระเป๋าผ้าในชีวิตประจำวันแล้ว ก็มีเรื่องการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบประหยัดพลังงาน , การปิดแอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าช่วงพักกลางวัน , ใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ ( กระดาษ A4 ) , การรณค์ใช้บันได สำหรับการขึ้นลง 1 - 2 ชั้น ฯลฯ
ซึ่งกระแสตอบรับการใช้การตลาดแบบ Green Marketing เป็นไปทางที่ดี โดยเฉพาะประเทศทางฝั่งเอเเชีบ - แปซิฟิก คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 64 สำหรับพื้นที่อื่น ๆ เช่น ตะวันออกกลางและแอฟริกา ร้อยละ 63 , ฝั่งอเมริกาและยุโรป คิดเป็นร้อยละ 40 และ 42 ตามลำดับ
สำหรับในไทย กระแสนี้ กลายเป็นเทรนด์ที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นใหม่ และมีคนสนใจเพิ่มขึ้นเรื่อย เพราะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คนรุ่นใหม่ต้องการแสดงออก สังเกตได้จากการที่ กลุ่ม CP และ Central ออกมาช่วยรณรงค์การลดหรืองดใช้ถุงพลาสติก และมีการจัดจำหน่ายถุงผ้า แทนการใช้ถุงพลาสติก ไม่เพียงเท่านี้ หลายองค์กร นิยมใช้ถุงผ้าแจกฟรี / ถุงผ้าโปรโมชั่น เป็นเครื่องมือทางการตลาดทาง CRM เพื่อรักษากลุ่มลูกค้าและสร้างประสบการณ์ที่ดี ทางการตลาดให้กับลูกค้าได้ด้วย
พฤติกรรมที่น่าสนใจ สำหรับคนรุ่นใหม่ คือ มากกว่า 50% ของผู้บริโภค ที่ต้องการให้ระบุว่า วัสดุของบรรจุภัณฑ์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือไม่ และเป็นเครื่องมือ ช่วยในการตัดสินใจซื้อสินค้าด้วย นี้จึงสรุปได้ว่า ไม่ใช่เป็นเพียงการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ แต่เป็นกลยุทธ์ทางการตลาด ที่ช่วยส่งเสริมยอดขายได้อีกรูปแบบหนึ่ง
ก่อนที่เราจะเริ่มการทำ Green Marketing เราต้องทำความรู้จักกับลูกค้าของเราให้ดีก่อน ว่า ลูกค้าของเรามีความสนใจและใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมในระดับใด เราสามารถแบ่งกลุ่มผู้บริโภคอย่างละเอียด ออกเป็น 5 กลุ่ม ดังนี้
- LOHAS ( Lifestyles of Health and Sustainability )
เป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด การใช้ชีวิตประจำวัน ใส่ใจกับการดูแลสุขภาพ และการมีชีวิตที่ยั่งยืน เป็นกลุ่มที่เราสามารถใช้การตลาดแบบ Green Marketing ได้เต็มที่ 100% ให้ความร่วมมือ เราสามารถเจาะจงผลิตภัณฑ์ ที่สร้างวัสดุที่รักษ์โลกได้ เช่น กระเป๋าผ้า หรือถุงผ้าลดโลกร้อน ฯลฯ - Naturalites
การใส่ใจในสิ่งแวดล้อม จะไม่เทียบเท่ากับแบบ LOHAS แต่ก็มีการติดตามข่าวสาร เกี่ยวกับกิจกรรมที่ช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยกลุ่มนี้มักจะเริ่มจากระดับครอบครัวก่อน และมีแนวโน้มในการร่วมมือกิจกรรมทางสังคมได้ ในภายหลัง เช่น การแยกขยะภายในครัวเรือน , การนำวัสดุเหลือใช้ ไปรีไซเคิลเพื่อใช้ภายในบ้าน เป็นต้น - Drifters
เป็นกลุ่มที่ค่อนข้างอิงตามกระแส ไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เรียกง่าย ๆ ว่า ใครใช้อะไร ก็ใช้ตาม เช่น มีช่วงหนึ่งที่ผู้คน ให้ความสนใจกับจักรยานแบบ Fixed gear คนกลุ่มนี้ก็จะซื้อตามด้วย , แม้แต่การใช้ถุงผ้าลดโลกร้อน เป็นต้น แต่กลุ่มนี้สามารถชักจูงได้ง่าย ด้วยออกแบบและดีไซน์ที่สวยงามของสิ่งของ - Conventionals
สำหรับคนกลุ่มนี้ จะเลือกใช้สิ่งของที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ก็ต่อเมื่อสิ่งของนั้น ช่วยเอื้ออำนวยความสะดวก หรือให้ผลประโยชน์กับตัวเอง อย่างเป็นรูปธรรม เช่น การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 ช่วยลดค่าใช้จ่าย ได้มากกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป , การลดใช้ถุงพลาสติก เน้นใช้ถุงผ้าแทน เพื่อสะสมแต้ม เป็นต้น - Unconcerneds
เป็นกลุ่มที่สนใจ ในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อมเลย และรวมถึงการละเลยสิ่งแวดล้อม แต่สำหรับกลุ่มนี้ อาจจะต้องใช้เวลาในการชักจูง ค่อนข้างนานกว่ากลุ่มอื่น ๆ โดยอาจจะต้องใช้การนำเสนอที่ตรงจุด จึงจะสามารถค่อย ๆ สร้างการเปลี่ยนแปลงได้
จะเห็นได้ชัดว่า การทำการตลาดแบบ Green Marketing ไม่ใช่เพียงการสร้างภาพลักษณ์ และใช้ได้กับทุกกลุ่มคน ต้องนำเสนอเนื้อที่แตกต่างกันออกไป เพื่อสร้างความรู้สึก หรือสร้างการตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำการตลาดแบบ Green Marketing คือ ความจริงใจ ไม่หลอกลวงผู้บริโภค และเน้นให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม อย่างสม่ำเสมอ เมื่อมีโอกาส และไม่ว่าจะอยู่ในธุรกิจไหน หรือองค์ใด ก็สามารถช่วยลดโลกร้อนได้ สามารถนำไปประยุกต์กับเรื่องบันเทิง เพื่อช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วม และความสนุกสนานของกิจกรรมได้
ทำไม ? กระเป๋าผ้า จึงเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ดี ต่อการทำการตลาดแบบ Green Marketing
มีเหตุผลไม่กี่เหตุผล ที่หลายองค์กรหนักแน่น ในการใช้กระเป๋าผ้า หรือถุงผ้าลดโลกร้อน เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมการตลาด
- กระเป๋าผ้า สามารถสร้าง Branding ให้เหมาะสมกับสไตล์ขององค์กรได้
กระเป๋าผ้า เป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับองค์กรที่สนใจ ต้องการสั่งผลิตสิ่งของแจกลูกค้า เพราะสามารถออกแบบหรือดีไซน์ ให้เข้ากับสไตล์ขององค์กรได้ หรือจะออกแบบกระเป๋าผ้า ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ก็ย่อมได้ เช่น กระเป๋าผ้าแคนวาส , กระเป๋าผ้ากระสอบ , กระเป๋าผ้ายีนส์ หรือกระเป๋าผ้าสปันบอนด์ ฯลฯ นอกจากการเลือกเนื้อผ้าแล้ว เรายังสามารถเลือกขนาดโลโก้ และการวางตำแหน่งของโลโก้ได้ด้วย ( ติดตามได้ที่ : เคล็ดลับ การออกแบบโลโก้ สำหรับการพิมพ์บนกระเป๋าผ้า ) - กระเป๋าผ้า เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม
กระเป๋าผ้า เปรียบเสมือนเป็นเครื่องหมาย ในการทำการตลาดแบบ Green Marketing ไปแล้ว ผู้บริโภคส่วนใหญ่มีการรับรู้ถึง ความสำคัญของการใช้กระเป๋าผ้า แทนการใช้ถุงพลาสติก แต่เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นการใช้งานกระเป๋าผ้า ควรทำควบคู่กับการทำ CRM หรือการสร้างความ Loyalty ต่อแบรนด์หรือองค์ ให้เกิดกับลูกค้าและพนักงานในองค์กร เช่น การนำกระเป๋าผ้า เป็นของแถมลูกค้า เพื่อเป็นของสัมมนาคุณ , การแจกกระเป๋าผ้า สำหรับต้อนรับพนักงานใหม่ สร้างความภาคภูมิใจองค์กรได้ ฯลฯ - กระเป๋าผ้า เป็นการโฆษณาแบรนด์ในระยะยาว
ด้วยคุณสมบัติพื้นฐานของกระเป๋าผ้า ที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มากกว่า 5 ปีขึ้นไป มีความแข็งแรงทนทาน ตอบสนองการใช้งานของผู้บริโภคได้ดี ตลอดอายุของกระเป๋าผ้า เราจะได้รับผลตอบแทนของการลงทุน เช่น ในรูปของการรับรู้แบรนด์ ( Awareness ) จนถึงการตัดสินใจซื้อสินค้า ( Puchase ) และการภักดีในแบรนด์ ( Loyalty ) ได้เลย ยิ่งหากเรามีการออกแบบกระเป๋าผ้า ตอบโจทย์ลูกค้ามากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้การลงทุนนี้ มีประสิทธิภาพ และสร้างความคุ้มค่าได้มากเท่านั้น - กระเป๋าผ้า ง่ายต่อการพกพา
ด้วยน้ำหนักที่เบา สามารถพับเก็บได้ง่าย ทำให้มีความสะดวกสบายในการพกพา ง่ายต่อการใช้งาน และการทำความสะอาด ถูกใจลูกค้าทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรด้วย
สำหรับกระเป๋าผ้า ที่นิยมสั่งผลิต เพื่อการทำการตลาดแบบ Green Marketing มีให้เลือกมากมาย หลักการเลือกกระเป๋าผ้า หรือถุงผ้าลดโลกร้อน นอกจากจะเลือกดีไซน์ ให้เหมาะสมกับลูกค้าและแบรนด์แล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง ไม่แพ้กันก็คือ เนื้อผ้าของถุงผ้าลดโลกร้อน โดยจะมีเนื้อผ้าที่มีความนิยม ดังนี้
กระเป๋าผ้าสปันบอนด์ ( Non - Woven Polypropylene or Spunpond Bag )
มีลักษณะเนื้อผ้าที่คล้ายกับ ถุงกระสอบที่ใส่อาหารสัตว์หรือกระสอบปุ๋ย เป็นใยผ้าที่ไม่ผ่านการทอ แต่เป็นการฉีดใยสังเคราะห์อย่างต่อเนื่อง ให้สานไป - มา โดยมีลักษณะคล้ายคลึงกับใยผ้ามาก มีความเหนียว แข็งแรง ทนทานและยืดหยุ่นง่าย
ข้อดีอีกอย่าง ของผ้าสปันบอนด์ คือ ย่อยสลายได้ง่าย ไม่เป็นที่สะสมของเชื้อโรค จึงเป็นที่นิยมสำหรับทางการแพทย์ และโรงงานที่ต้องการป้องกัน เชื้อโรคและสิ่งเจือปนต่าง ๆ
กระเป๋าผ้าแคนวาส ( Canvas Bag )
เนื้อผ้าของกระเป๋าผ้าแคนวาส มาจากเส้นใยธรรมชาติ นั่นคือ ฝ้าย ซึ่งอ่อนโยนต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองง่ายในการใช้งาน กระเป๋าผ้าแคนวาส มีความหนาเป็นพิเศษ เมื่อเทียบกับเนื้อผ้าอื่น ๆ มีความแข็งแรงทนทาน รองรับน้ำหนักได้ดี มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน , กำจัดคราบสกปรก หรือรอยเปื้อนได้ง่าย ด้วยการซักทำความสะอาด , มีคุณสมบัติในการย้อมติดสี ทำให้การปริ้นสกรีนโลโก้ ข้อความทำได้ง่ายมาก
ข้อดีอีกอย่างหนึ่ง คือ กระเป๋าผ้าแคนวาส มีต้นทุนการผลิตที่ไม่สูงมากนัก หากทำการผลิตในจำนวนมาก
กระเป๋าผ้ากระสอบ ( Jute Bag )
แท้จริงแล้ว เนื้อผ้ากระสอบก็มีความนิยมและคุณสมบัติ ที่ไม่ด้อยไปกว่าผ้าแคนวาสเลย เพราะเป็นเส้นใยธรรมชาติ สามารถออกแบบและตัดเย็บ ทำเป็นกระเป๋าผ้าได้ง่าย รวมถึงการย้อมสีและการสกรีนลาย , โลโก้ , ข้อความบนกระเป๋า ก็สามารถทำได้ง่ายเช่นกัน เช่น กระเป๋าขวดน้ำ - ไวน์ , กระเป๋าถือ shopping , กระเป๋าผ้าพิมพ์ลาย , กระเป๋าถือ เป็นต้น และเราสามารถเพิ่มคุณสมบัติ ของกระเป๋าผ้ากระสอบได้ เช่น การเคลือบด้วยลามิเนต - เพิ่มคุณสมบัติการกันน้ำ , การใช้ผ้า cotton บุด้านใน เพิ่มสัมผัสนิ่มด้านในกระเป๋า เป็นต้น
กระเป๋าผ้า PU ( Polyurethane )
เป็นเนื้อผ้ากระเป๋าที่เราคุ้นเคย ไม่แพ้เนื้อผ้าอื่น ๆ เลย แต่เราอาจจะคุ้นเคยในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ เช่น ร่ม , เต๊นท์ , ผ้าใบกันฝน , ผ้าปูโต๊ะ ฯลฯ แต่สำหรับเนื้อผ้า PU มีคุณสมบัติพิเศษที่น่าสนใจ คือสามารถป้องกันละอองน้ำได้ รวมถึงแสงแดด จึงทำให้เนื้อผ้า PU ได้รับความนิยมสั่งผลิต เป็นถุงผ้าลดโลกร้อน สำหรับการทำ Green Marketing
การเลือกเนื้อผ้าของกระเป๋าผ้า ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญ ในการทำการตลาด Green Marketing เพราะในแต่ละเนื้อผ้า จะให้คุณค่ากับแบรนด์ หรือองค์กรที่แตกต่างกันไป แต่อย่างไรก็ตามเนื้อผ้าที่กล่าวไปนี้ ล้วนแล้วเป็นเนื้อผ้าที่เหมาะสมที่สุด และมีประสิทธิภาพมากที่สุด ในการทำการตลาดเพื่อสิ่งแวดล้อม
ทางเราพร้อมที่จะให้บริการ ออกแบบ และให้คำปรึกษา ในเรื่องการผลิตกระเป๋าผ้า ทุกชนิด
ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย มีสีให้เลือกมากกว่า 15 สี
ผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อเข้ามาได้ ผ่านทาง
Facebook : Thai design guru
Line : @designguru
Tel : 088 - 653 - 2999